Final Re-Edit ตอนที่ 7 บีคอนทาวน์
ระหว่างทางก็เจอกับประตูมิติที่ยังไม่ได้เปิดตรงหน้า และแปลกที่กรอบประตูไม่ได้ทำจากหินออบซิเดียน และที่พื้นคือไฟแช็คเรืองแสงสีฟ้าที่ถูกทิ้งไว้ พอเพียงหยิบมาลองจุดไฟเปิดประตูมิติดู โดยหวังว่านี่คงจะเป็นประตูมิติที่โรมีโอบอก มันก็เปิดได้ด้วย พอเพียงเลยตั้งเสาล่ามไทรสตาร์ไว้ แล้วเข้าไปทันที
เมื่อเข้ามาข้างใน พบว่ามันคือห้องยาวที่มีประตูมิติอยู่หลายสี พอเพียงลองสุ่มเข้าไปดูเผื่อจะมีคนช่วย แต่พอเข้าไปดูกลับเป็นโลกสกายซิตี้ที่โดนทำลายไปตั้งแต่ปีมะโว้ และเบื้อล่างคือพื้นน้ำที่อยู่ต่ำจากสกายซิตี้ไปมากโข พอเพียงรีบโดดลงไป แล้วหาประตูมิติกลับไปทันที และไปอีกที่หนึ่ง ก็ดันมาเจอคฤหาสน์ฟักทองขาว ที่ไม่มีฟักทองขาวอาละวาดอีกเลย แล้วพอเพียงก็กลับไปอีกครั้ง
จนแล้วจนรอด ไปจนทั่วแล้ว ก็ไม่เจอมิติที่มีมูกซิตี้สักที จนกระทั่งเจอกับโลกโลกหนึ่งที่ข้างในเป็นเมืองที่สวยงามผิดปกติ และสงบสุขพอ ๆ กับเซนเตอร์ซิตี้เมืองเกิดของเขาเลย และมีคนอยู่มากมายเต็มไปหมด
“ที่นี่ที่ไหนครับ” พอเพียงถามคนรอบตัว ซึ่งนั่นทำให้หลาย ๆ คนรุมมองพอเพียงเป็นเป้านิ่งดิ้นไม่หลุด (ทำอย่างกับไทยมุง)
“ที่นี่คือ บีคอนทาวน์ (Beacontown)” เสียงข้างหลังดังขึ้น และ ‘ไทยมุง’ ก็หันหลังไปยังต้นเสียงที่กำลังจะมา “พวกเราที่นี่ คือคนที่อาศัยอยู่ในเมืองนี้ และฉัน ก็คือสมาชิกของภาคีศิลารุ่นใหม่ (The New Order of The Stone)”
ต้นเสียงนั้นคือ เจซซี่ (Male Jesse) นั่นเอง
“เอ่อ ขอโทษนะครับ รู้สึกว่าผมอายุน้อยกว่าคุณตั้งเจ็ดปี ให้ผมเรียกว่าพี่ได้ไหมครับ” พอเพียงถาม
“ได้สิ” เจซซี่ตอบ “พี่ชื่อเจซซี่ ยินดีที่ได้รู้จัก” (โห เปลี่ยนสรรพนามเร็วจัง)
“ผมชื่อว่าพอเพียง ยินดีที่ได้รู้จักเหมือนกันครับ” พอเพียงแนะนำตัว
“นายมาที่นี่มีอะไรให้พี่ช่วยหรือ?” เจซซี่ถาม
“พอดีว่ามีอยู่สองอย่างที่จะให้ช่วย อย่างแรก ผมต้องการให้พี่ไปหยุดภัยพิบัติในโลกของผม จากนั้นหาทางให้ผมกลับไปโลกของผมด้วยครับ” พอเพียงตอบ
“ที่นายพูดแบบนี้ แสดงว่าพี่ต้องไปช่วยโลกของนายก่อนสินะ” เจซซี่บอก
“ครับ” พอเพียงตอบ
“งั้นเล่ามาหน่อยซิว่าเกิดอะไรขึ้น” เจซซี่บอก
“เรื่องมันยาวน่ะครับ คือ เรื่องมันมีอยู่ว่า…” พอเพียงพูด
ต่อมา ในห้องประชุมภาคีศิลา พอเพียงกับเจซซี่อยู่ในนั้น และคนที่มาเพิ่มต่อจากทั้งสอง มีเรดาร์ (Radar) นิกกิ (Nikki) เพทรา (Petra) โอลิเวีย (Olivia) แอ็กเซล (Axel) ลูคัส (Lukas) แจ็ค (Jack) และไอวอร์ (Ivor)
“…จากนั้นผมก็เลยตามหามูกซิตี้ตามคำแนะนำของโรมีโอ แต่ผมไม่รู้ว่าอยู่โลกไหนกันแน่” พอเพียงสรุป
“อืม…” แจ็คบอก “โรมีโอไม่รู้ว่าโลกที่มูกซิตี้เองก็มีภัยพิบัติเช่นกัน และการมาของนายอาจกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตได้แน่”
“หมายความว่าไงครับ” พอเพียงถาม ท่าทางดูกังวล
“มันมีเครื่องเนเธอร์รีแอคเตอร์ (Nether Reactor) ที่สามารถสร้างเสาเนเธอร์สไปร์ (Nether Spire) และส่งม็อบจากเนเธอร์ให้ปรากฏตัว แต่เครื่องนี้มีใครก็ไม่รู้สังเคราะห์เครื่องนี้ขึ้นมาใหม่ทั้ง ๆ ที่เราไม่เคยเจอมันมานานหลายพันกว่าปี แต่เมื่อห้าปีก่อน มันดันมีเครื่องหนึ่งที่ถูกสังเคราะห์ขึ้นมาแล้วถูกจุดชนวนด้วย ไอ้ตัวการถูกคนในมูกซิตี้จับขังไว้ ห้าปีต่อมามีคนลักลอบเอาเนเธอร์รีแอคเตอร์สังเคราะห์ที่มีไอ้ตัวการอยู่ในนั้นด้วยมาจุดชนวนอีกครั้งและเรื่องมันก็ใหญ่โตแบบนี้ละ”
“อะไรนะ??” พอเพียงอุทาน “แล้วมันจะเกี่ยวข้องอะไรที่เดอะแบล็คกับเกเวอร์รัสที่กำลังตามล่าผมอยู่”
“ถ้าเกิดว่าเธอไป” โอลิเวียบอก “ถ้าเธอไปยังมูกซิตี้ พวกเขาจะส่งลูกสมุนตามล่าเธอแทบพลิกแผ่นดินเลยนะ”
“ลำพังกำลังของเราคงปกป้องนายเพียงคนเดียวไม่ไหวแน่” แอ็กเซลเสริม
“แต่เรายังพอถ่วงเวลาได้บ้าง” ลูคัสออกความเห็น “เพราะศูนย์กลางระหว่างมิติ — พี่หมายถึงห้องโถงใหญ่ที่นายมา — มันกว้างใหญ่มาก และมีมิติหลายมิติ ถ้าเกิดไม่มีเครื่องมือที่จะบอกได้ว่ามิตินั้นมิตินี้อยู่ที่ประตูไหน ต่อให้พวกนั้นสุ่มเข้าไปก็ไม่มีวันหานายเจอหรอก”
“ฉะนั้น พวกพี่เลยมีสิ่งหนึ่งที่จะช่วยให้เธอเดินทางไปมาระหว่างมิติได้สะดวก” เพทราเสริม จากนั้นส่งสัญญาณให้เจซซี่ไปหยิบหนังสือเรืองแสงมา
เจซซี่ทำตาม และโชว์หนังสือให้พอเพียงดู
“แอตลาส” เจซซี่บอก “หนัสือที่จะระบุว่ามิติที่เราต้องการจะไปนั้น อยู่ที่ไหนบ้าง”
“เอาละพอเพียง” ไอวอร์เล่าต่อ “นายบอกอีกว่าจะต้องไปหาสามจักรวรรดิอะไรเหล่านี้ด้วยใช่ไหม”
“ใช่ครับ” พอเพียงตอบ
“งั้นรีบไปกันเถอะ” เจซซี่บอก “ขืนอยู่ที่นี่ต่อไปเดี๋ยวพวกนั้นจะมาเล่นงานเราก็ได้”