Warning: The magic method Vc_Manager::__wakeup() must have public visibility in /home/ifeelsom/domains/porpiangwriter.com/public_html/wp-content/plugins/js_composer/include/classes/core/class-vc-manager.php on line 203
Blog – Page 11 – PorpiangWriter.com

Blog

ย้อนกลับมาที่เอ็ดมันด์อีกสักทีเถอะได้โปรดนะ ตอนนี้เอ็ดมันด์รู้แล้วว่าพวกแม่มดจาดิสเริ่มไม่ใจดีกับเขาเหมือนแต่ก่อนแล้ว เหตุไม่พาพวกพี่น้องของเขาและพวกไตรวีรบุรุษมาที่ปราสาทนี้ และโดนแม่มดใช้เป็นทาสแทน นาง — เอ่อ — ยัดเอ็ดมันด์ลงไปในเลื่อนแล้วก็ให้คนแคระขับเลื่อนไป นางแม่มดเรียกมอกริมให้ส่งเหล่าหมาป่าที่วิ่งเร็วที่สุดไปตามกลิ่นพวกมนุษย์เพื่อฆ่าให้หมดไม่ว่าเจอใครก็ตาม ถ้าไปก่อนแล้วก็ไปที่โต๊ะหินทันทีแต่อย่าให้ใครเห็น (หารู้ไม่ว่าเกเวอร์รัส เดอะแบล็ค และพวกเอ็นติตี้ 303 ก็เคลื่อนไหวประมาณนี้เหมือนกัน) แต่ก็เป็นโชคร้ายที่หลักฐานที่พวกพอเพียงทิ้งไว้โดนหิมะฝังทำลายเรียบ เลยหาไม่เจอ ความทนทุกข์ทรมานของเอ็ดมันด์มาถึงแล้วและก็ยาวด้วยเมื่อต้องอยู่กับจาดิส แล้วต่อมาก็พบกับว่ามีพวกลูกน้องจาดิสกำลังรื่นเริงอยู่เพราะได้ของขวัญจากซานตาคลอสเพราะแอสลานกำลังเคลื่อนไหวแล้ว (ก็ถึงคราวที่เกเวอร์รัสออกโรงแล้วล่ะ) และยิ่งเวลาผ่านไปหิมะละลายลงไป อากาศอุ่นขึ้นเรื่อย ๆ เลื่อนจาดิสเริ่มช้าลงเรื่อย…

กลับมาหาภัททิต้าดีกว่า พวกเขารีบเตรียมของอพยพเอาของกินเอาเสบียงติดตัวไปด้วย บรรยากาศแทบตึงเครียดเรื่องการเตรียมทำเวลาไม่ให้จาดิสแม่มดขาวได้เปรียบกว่า และก็อาจจะเลวร้ายกว่าอีกก็กลัวว่าพวกเอ็นติตี้ 303 หรือเดอะแบล็ค หรือแม้แต่เกเวอร์รัสอาจจะได้เปรียบกว่าแทนคือขวางไม่ให้ไปพบแอสลาน แล้วทั้งหมดก็เริ่มออกเดินทางทันที และไม่มีวี่แววการตามล่าของศัตรูที่ว่ามา เวลาผ่านไปทั้งคืน ทั้งก็ลงมาอยู่ในโพรงที่ซ่อนของบีเวอร์ มันก็จะแออัดหน่อย ๆ นะครับ สุดท้ายทั้งหมดก็หลับไป ………………………………………….. ครู่หนึ่งต่อมาทุกคนสะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินเสียงกระดึงเลื่อน บีเวอร์แก่ตัวผู้มุดออกไปจากโพรงก่อนใครเพื่อน เพื่อที่จะได้รู้ว่านางแม่มดนั่งเลื่อนไปในทางทิศใด ห้านาทีต่อมาก็ได้ยินเสียงพูดคุยกันนอกโพรง ก็ตกใจกลัวว่าบีเวอร์กำลังจะจับตัวไป แต่ที่ไหนได้เมื่อบีเวอร์ตัวผู้กลับมาอยู่ในโพรงและเรียกให้ออกมา บอกว่าไม่ใช่แม่มดแล้ว ออกมาก็เจอกับบรรยากาศที่แสนอบอุ่นพิกล “อะไรกัน…

ขอเล่าถึงเอ็ดมันด์เถอะ ถึงตรงนี้แล้วอย่าคิดดว่าตอนนี้เอ็ดมันด์ชั่วร้ายจนอยากให้พี่น้องและไตรวีรบุรุษกลายเป็นหิน เอ็ดมันด์อยากได้ขนมหวาน (เลี่ยน — ในความคิดของพวกไตรวีรบุรุษ) ชื่นใจเทอร์คิช ดีไลท์ อยากเป็นเจ้าชาย (และพระราชาในอนาคต) ส่วนนางแม่มดจะทำอะไรพวกที่เหลือ เอ็ดมันด์ไม่อยากให้นางทำดีต่อพวกนั้นเท่าที่นางดีต่อเขา แต่เอ็ดมันด์บอกตัวเอง หรือปั่นหัวตัวเองในมุมของคุณ ว่านางแม่มดคงไม่ทำอันตรายต่อพี่น้องของเขาและพวกที่มาด้วยมากนัก ‘พวกที่เล่าเรื่องนางเป็นศัตรู ไม่ชอบนางอยู่แล้วกันทั้งนั้น‘ เอ็ดมันด์ปั่นหัวตัวเอง ‘มีหวังที่เขาพูด ๆ กันน่ะ เชื่อไม่ได้ นางดีต่อเรานี่นา ดีกว่าพวกนั้นเสียอีก นางคงจะเป็นราชินีที่แท้จริง…

“เป็นเรื่องที่เลวร้ายจริง ๆ” บีเวอร์แก่ตัวผู้โคลงหัวช้า ๆ “ร้ายมากจริง ๆ เขาถูกตำรวจจับตัวไปแน่ ๆ ฉันรู้มาจากปากของนกตัวหนึ่งที่เห็นเหตุการณ์ (ตำรวจในนาร์เนียเป็นพวกสัตว์นะครับ) “พวกนั้นมุ่งหน้าไปทางเหนือ และเราก็รู้ว่าหมายถึงอะไร” “ปราสาทนางแม่มดเนี่ยนะ?” ริวคิกพูด “ใช่” บีเวอร์แก่ตัวผู้ตอบ “พวกที่ถูกจับไปน่ะ น้อยนักที่จะได้กลับออกมาอีก — เขาว่าปราสาทมีรูปหินเต็มไปหมด ในลานก็มี ชั้นบนก็มี ห้องโถงก็ด้วย นางแม่มดสาปใครต่อใครเป็นหินไปทั้งนั้น” “ไม่ใช่เมดูซ่าแล้วล่ะ…

และสักพักนกโรบินที่นำทางพวกเขาทั้งยี่สิบห้าคนไปก็หายไปซะแล้ว “อ้าว ว่าแล้วไปว่านกโรบิน มันงอนพวกเราเฉยเลย” ริวคิกว่าเอ็ดมันด์ “ชู่ว!” ซูซานร้อง “มีอะไรก็ไม่รู้กำลังขยัวอยู่ข้างต้นไม้ทานนู้น–ค่อนไปทางซ้ายมือ” “อะไรนะ” พอเพียงถาม “ตัวอะไร…” และความตาไวของเขาก็สามารถจับสิ่งที่มันไหวอยู่ข้างต้นไม้ได้ “เจอซะที” พอเพียงพูด “ตัวบีเวอร์ มันทำท่าจุ๊ปากใส่เราเพื่อ?” ตัวบีเวอร์กวักมือเรียกทั้งยี่สิบห้าไป มันพูดได้ด้วยแฮะ “พวกเธอทั้งหมดเป็นบุตรแห่งอดัมและธิดาแห่งอีฟเหรอ” บีเวอร์ถาม “ที่เรียกมนุษย์ผู้ชายผู้หญิงอะนะ?” ภัททิต้าถาม “จุ๊ ๆ! เบาหน่อย…

ต่อมาพวกเด็ก ๆ ก็ร้องว่ากิ่งไม้จากที่ไหนมันตำ และดันมาเหยียบพื้นเปียกแฉะด้วย “เอาล่ะแสดงว่าพวกเราหลุดเข้ามาในดินแดนที่ลูซี่พูดแล้วล่ะ” พอเพียงพูด “ฉันเชื่อใจลูซี่ เพราะฉันไปเจอมากับตัวเลย” “เอาล่ะ” ปีเตอร์พูด “ผมไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดี ผมคิดว่าที่นี่ละ ดินแดนแห่งนาร์เนีย ว่าแต่ ผมอยากรู้จริง ๆ ว่าหนาวขนาดนี้จะมีใครให้เสื้อโค้ตพวกเราบ้าง” “ฉันว่านะมันอยู่ตรงนั้นไง” พอเพียงตอบและชี้ไปยังจุดที่เสื้อโค้ตกองอยู่ พวกเขาหยิบเสื้อโค้ตมาใส่ น่าแปลกที่ขนาดเสื้อนั้นใหญ่กว่าของเด็ก ๆ ทั้งสี่ แต่เหมาะพอดีกับของทั้งยี่สิบเอ็ดคน “เหมือนอยู่แถวนอร์ธเรนด์ในอาเซรอธเลย…

หลังจากนั้นพวกเขาทั้งยี่สิบเอ็ดก็ได้รู้ว่า พี่ชายของเอ็ดมันด์และลูซี่ชื่อว่า ปีเตอร์ พีเวนซี่ (Peter Peevencie) และพี่สาวชื่อ ซูซาน พีเวนซี่ (Susan Peevencie) ครั้งแรกที่ปีเตอร์กับซูซานได้มาเจอกับเหล่าไตรวีรบุรุษทั้งยี่สิบเอ็ดคนนั้นก็ตกใจมากว่าพาใครมา “ไม่ใช่มาจากในตู้เสื้อผ้านั่นแน่นะครับ” ปีเตอร์พูด “ไม่ใช่เฟ้ย!” เจซซี่ดุ “พวกเรามาจากโลกอีกโลกหนึ่งที่เรียกว่าโลกสี่มิติ” “แล้วยังไงคะ” ซูซานพูดต่อไป “ฉันขอรับประกันว่าไอ้ที่ลูซี่น้องเล็กสุดของพวกเธออ้างไว้น่ะ เป็นเรื่องจริง ฉันไปเจอมาแล้ว มาเจอห้องใต้ดินในบ้านร้างแล้วมาเจอดินแดนนี้ละ” พอเพียงพูด “ตอนแรกยิงซาลิน่าไปเจอกับลูซี่ที่พบกับฟอน…

ทั้งหมดเข้าไปในบ้านร้างและก็ลงไปในห้องใต้ดิน และก็ควานหาทางที่ไปยังดินแดน ‘นาร์เนีย’ ที่ว่า ทุกคนก็มาพบกับป่าที่มีแต่หิมะและความหนาวเย็น “แหมบรรยากาศนี้ฉันอยากร้องเพลง Let It Go ขึ้นมาเสียเชียว” โซเฟียพูดและเคลิ้ม “เอ่อ มันใช่เวลามั้ยจ๊ะ” พอเพียงถาม “เราต้องตามหาริวคิกนะ” “ใช่ ทุกคนแยกทางกันหาเถอะ” เจซซี่พูด   ก็แยกทาง นั่นละครับ   เกิร์ลทีมแวะไปหาลูซี่กับฟอน ส่วนธันวากับลูคัสแยกไปอีกทางกับพวกที่เหลือ ส่วนเจซซี่…

หลังจากนั้นเจซซี่ก็ได้พาพอเพียงกับภัททิต้ามาหาเอ็นติตี้เอ็กซ์เพื่อให้รู้ความจริงเกี่ยวกับคำสาปเฟล “บอกมาเอ็กซ์ ฉันรู้สึกสงสัยกับที่ฉันดื่มน้ำเฟลแล้ว ฉันไม่รู้ว่ามันหมายความว่าอะไร แต่ฉันอยากรู้จริง ๆ ว่ามันเป็นการเลือกให้มาครอบครองพลังเฟลใช่ไหม” ภัททิต้าเริ่มคำถามแรก “ครับนายท่าน พวกท่านได้ถูกเลือกไว้อย่างลับ ๆ โดยจอมมารสูงสุด พวกเขาได้ตกลงปล่อยพลังเฟลให้ครอบงำไปทั่วทั้งหมด และรอให้ผู้ที่กระหายอำนาจและบ้าคลั่งอีกมากมายมาใช้พลังเฟลอย่างไม่หยุดยั้งตลอดเวลา” เอ็นติตี้เอ็กซ์อธิบาย “ซึ่งจอมมารสูงสุดผู้นี้ชอบเลือกสุ่มคน ซึ่งบางคนไม่ยอมใช้มันและพยายามอยู่กับมันโดยไม่ให้มันควบคุมจิตใจพวกเขาเหล่านั้น เช่นเดียวกันกับนายท่านนั่นละครับ และกว่าจะเป็นคนเหล่านั้นได้ต้องใช้ความสามารถและความพยายามอย่างเต็มที่ในการที่จะป้องกันไม่ให้เฟลครอบงำพวกเขาได้ “สำหรับนายท่านนั้น นายท่านท่าทางเหมือนโดนเฟลครอบงำไปแล้ว แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่ ผมสังเกตว่านายท่านยังไม่มีผิวสีเขียวเพราะเฟลเหมือนคนที่โดนเฟลครอบงำ…

ขอเท้าความหลังจากที่พวกปีศาจหนีไปได้ไม่นานก่อนนะครับ พวกเขาเฮลั่นทันที “สำเร็จ!” ภัททิต้าตะโกน “เธอทำได้! เธอทำได้!” โซเฟียตะโกนดีอกดีใจ กระโดดเร่า ๆ ไปหาพอเพียง “เราชนะแล้วทุกคน!” ฮีโร่บรายน์พูด “แต่อย่างไรก็ตามเราไม่ควรประมาทถึงอนาคตของพวกมันเด็ดขาด เดี๋ยวมันจะหาจังหวะตีไข่แตกได้ (ไข่ที่ฉันพูดถึงก็คือจุดอ่อนของเรานั่นละ) เราต้องปิดรูรั่วทั้งหมดของจุดอ่อนอย่าให้เหลือแม้แต่นิดเดียว และอีกอย่างอย่าให้แผนที่เราเตรียมไว้ดันล้มไม่เป็นท่าซะก่อนนะ” พอเพียงอ้าแขนรับโซเฟียไปกอดทันทีและทั้งสองก็จูบกัน (อีกครั้ง) “โอ้ว! ว้าว! ฟินพะยะค่ะ!“ (ฮั่นแน่มีคนจิ้นพอเพียงกับโซเฟียซะแล้ว) “โชคดีนะไม่มีคนเห็นฉากนี้แล้วอ้วกเพราะเลี่ยนอยู่แถวนี้” ภัททิต้าพูด…

Start typing and press Enter to search

Shopping Cart