ขณะเดียวกัน พอเพียงกับภัททิต้าก็ได้รู้จักกันและได้เล่าเรื่องของแต่ละคนให้ฟัง เมื่อเล่าจบแล้ว ก็มีเสียงคนเรียกพอเพียงกับภัททิต้าให้พาพรรคพวกกลับไปเจออีกครั้ง และเจอกับสตีฟ อเล็กซ์ นอช ฮีโร่บรายน์ (มากันหมดเลย) ก็มาพร้อมกับเจซซี่ เพทรา ลูคัส แอ็กเซล โอลิเวีย และแน่นอน ไอวอร์ เพื่อมาหาพอเพียงและภัททิต้า และก็ตามเคย แมจิค แซม และแซนดิสก็มาด้วย “ระวังให้ดีนะ ให้เกียรติพวกเจซซี่หน่อย พวกนายเป็นรุ่นน้องพวกเขา” แซมพูด…
ขณะเดียวกัน เจซซี่สังเกตถึงหุบเขาประหลาดที่อยู่ไกลจากเมืองของเขาอยู่พอสมควร แต่มันดันมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เขาจึงเข้าไปสำรวจดูก็พบว่าสิ่งแรกที่ได้พบคือศพคนตาย ที่ตายผิดธรรมชาติมาก ผิวของคนคนนั้นขาวซีดจนเหมือนกับกระดาษ เมื่อเขาสำรวจดูในปากก็พบกับละอองสีเขียวพุ่งออกมาจากปาก พลังอะไรเนี่ย เจซซี่คิด และอีกภาพที่ปรากฏคือซากปีศาจที่ตายและมีเลือดสีเขียวเจิ่งนองออกมาเต็มพื้น เป็นภาพที่ยากจะหาดูได้ เขานั่งพินิจพิจารณาเลือดสีเขียวนั้น เขาสันนิจฐานได้ว่าเลือดนั่นก็คงจะเป็นเลือดที่มีเวทมนตร์ แต่เป็นเวทมนตร์ชั่วร้ายแน่ ๆ เจซซี่เดินสำรวจเข้าไปลึกอีกก็เจอกับบ่อน้ำใหญ่และมีน้ำตก (แน่ละว่าต้องเป็นน้ำสีเขียว) เขาเอะใจว่าสีเลือดที่นี่ทำให้เขานึกถึงยาพอยซัน แต่อย่างไรก็ตาม เจซซี่หยิบขวดน้ำของเขามาตักน้ำ และยกขึ้นมาดมกลิ่น เขาไม่ชอบกลิ่นของน้ำนี้เลย และเขาก็คิดว่าใคร ๆ ก็คงไม่ชอบกลิ่นนี้เช่นกัน…
ขณะเดียวกัน สตีฟกับอเล็กซ์มาพบเจซซี่อีกครั้ง “ตกลงนายคือรุ่นพี่ของพอเพียงกับภัททิต้าแน่นะ” สตีฟถาม “ใช่ครับ ผมเป็นรุ่นพี่เขา” เจซซี่ตอบ “อายุของพวกผมเยอะกว่าพวกเขาอยู่เล็กน้อยประมาณปีสองปี พวกเขายังเด็ก ประสบการณ์การต่อสู้มันค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับพวกผม” “งั้นก็ได้ เดี๋ยวฉันจะไปหาภัททิต้าที่เซนเตอร์ซิตี้เอง” สตีฟพูด ขณะเดียวกันพอเพียงก็เห็นว่ามีคนเรียกเขาและเพื่อน ๆ ให้มาพบกับกษัตริย์แห่งเซนเตอร์ซิตี้โดยด่วน มีคนจากเมืองอื่นมาขอพบตัวด่วน พอเพียงแท็กทีมเพื่อน ๆ ไปหากษัตริย์แห่งเซนเตอร์ซิตี้ในขณะนั้น พวกเขาคำนับแสดงความเคารพ “ฝ่าบาท พระองค์เรียกตัวผมด้วยเหตุใดขอรับ” พอเพียงถาม “มีคนมาจากคิวบ์ซิตี้อันไกลโพ้นและบอกว่าต้องการพบตัวเจ้าโดยด่วน…
และแล้วภาคีศิลาทั้งหมดก็มารวมตัวกันที่อัพไรซิ่งซิตี้และหาพรรคพวกใหม่ทั้งหมด และแรกเริ่มก็จัดตั้งกองกำลังแห่งอัพไรซิ่งจนเป็นที่น่าพอใจมาก พวกเขาเก่งกันหมดทุกคนเลย พวกเขาเหล่านั้นมาในฐานะของ “ผู้ล่ามาร” นั่นเอง ขณะเดียวกันสิ่งที่อลันเตือนไว้ว่ามีคนเพียงคนเดียวที่ได้เล่าทุกอย่างเกี่ยวกับแหวนนั้น ซึ่งเขาคนนั้นได้ตีพิมพ์เป็นหนังสือขายไปทั่วโลก ทั่วเอกภพ ซึ่งคำเตือนนี้บอกใบ้ว่าให้ไปหาคนคนหนึ่งที่เซนเตอร์ซิตี้ ที่ดังมากในเรื่องของนวนิยายของเขาและการต่อสู้กับปีศาจเนเธอร์รีแอคเตอร์ นั่นก็จะเป็นใครไปได้ถ้าเกิดไม่เป็นพอเพียง คำใบ้นี้ก็เพียงพอที่จะทำให้สตีฟ อเล็กซ์ เจซซี่ และเพทราได้คำตอบมาแล้วว่าต้องไปหาพอเพียง ดังนั้นจึงสั่งให้แซนดิสเรียกตัวภัททิต้าอีกครั้งพร้อมเพื่อน ๆ ให้มาที่เซนเตอร์ซิตี้ทันที “ภัททิต้า พาเพื่อน ๆ ทั้งหมดมาหน่อย ฉันมีเรื่องจะบอก” แซนดิสเรียก…
ภัททิต้าได้รู้ข้อมูลมาจากอลันแบบเดียวกับที่พอเพียงรู้มาจากโซเฟีย จากนั้นพวกเขาแท็กทีมทั้งหมดมาปกป้องแหวนที่เขาครอบครอง และหลังจากนั้นไม่นานพวกเจซซี่ก็มาพบกับสตีฟและอเล็กซ์ สตีฟเล่าข้อมูลจากอลันให้เจซซี่รู้ จากนั้นก็ส่งพวกเขากลับไปยังเมืองของเขา และจากนั้นก็กลับไปยังมูกซิตี้ตามเคย สำหรับพอเพียง เขารีบเตรียมตัวเพื่อที่จะต้องต่อสู้กับพวกปีศาจให้ได้ แต่ไม่ทันไรก็เจอกับข่าวร้ายนั่นคือนางฟ้าแห่งความตายได้ปลุกชีพเดรดลอร์ด เอ็นติตี้ 303 และนูลเป็นที่เรียบร้อย แล้วเตรียมตัวสู้กับพวกเดอะแบล็คอีกครั้งหลังจากล้มเหลวไป พอเพียงกลุ้มใจอย่างแรง ภัททิต้าเองก็ได้ยินข่าวนี้แล้ว และเตรียมพร้อมปกป้องผู้คนจากวายร้ายทั้งหมดนี้ และแน่นอนเขาต้องพยายามอย่างสุดฤทธิ์ที่จะไม่ให้เอ็นติตี้ 303 กลับมาใช้เนเธอร์รีแอคเตอร์อีกครั้ง ไม่อยากให้เอ็นติตี้ 303 ใช้แผนคลาสสิคนี้เด็ดขาด หารู้ไม่ว่าพวกพอเพียงรู้ล้ำลึกกว่าเพราะเดอะแบล็คจ้องจะใช้อินเฟอร์โนรีแอคเตอร์ซึ่งประสิทธิภาพแรงกว่า ซึ่งพวกพอเพียงก็ดิ้นรนสุดขีดที่จะไม่ให้เดอะแบล็คใช้อินเฟอร์โนรีแอคเตอร์แน่ “กลุ้ม”…
พอเพียงนำแหวนนี้ไปดู และได้ฟังโซเฟียอธิบายดังนี้ แหวนวงที่พอเพียงครอบครองไว้คือหนึ่งในสามแหวนต้องคำสาปของไตรวีรบุรุษรุ่นแรก ซึ่งเมื่อครั้งอยู่ในมือของทั้งสาม มันยังไม่ถูกสาปไว้ แต่เมื่อจอมมารร้ายไม่ทราบชื่อที่ถูกทั้งสามล้มไปนานแล้วกลับมาแล้ว ทั้งสามก็ต้องปกป้องสุดขีดเพื่อแหวน เพราะจอมมารตนนี้ต้องการแหวนเพื่อครอบครองเอกภพ และสั่งให้จิตวิญญาณในแหวนวงนี้ได้ตกอยู่ภายใต้อำนาจของตนเท่านั้น (อ้อ ลืมบอกไปว่าเมืองนี้สร้างแหวนมาโดยสร้างจิตวิญญาณให้มาสถิตอยู่อยู่ในแหวน และรับใช้ผู้กล้าที่สวมแหวนด้วยการมอบพลังไม่จำกัดให้พวกเขา) สุดท้ายการปกป้องก็ล้มเหลวเมื่อจอมมารตนนั้นฆ่า “ราชสีห์” สามคนได้สำเร็จ และแหวนทั้งสามก็ถูกสาปให้ตกอยู่ใต้อำนาจของจอมมารและใช้มันในการครอบครองเอกภพ และนำแหวนไปให้ผู้บริสุทธิ์แต่ละคนสวมใส่เพื่อที่จะสูบวิญญาณออกไปและกักขังไว้ทรมาณไม่ให้ออกมา และถึงขั้นแปรเปลี่ยนให้พวกวิญญาณเหล่านั้นกลายเป็นปีศาจเลยทีเดียว แต่เมื่อพลังของจอมมารคนนั้นอ่อนแอลง มันทำให้จิตวิญญาณในแหวนนั้นทรยศเขาและตามหาคนที่พอจะพึ่งพาได้ มันถูกเปลี่ยนมือเจ้าของไปบ่อยมาก หนึ่งในนั้นก็คือคนที่อยู่ในอารัมภบทอย่าง เธนซอร์ นักวิทยาศาสตร์ นั่นเอง…
และอีกที่หนึ่ง หนึ่งในสมาชิกภาคีศิลาคนหนึ่ง เจซซี่ (Male Jesse) เขาได้ลงไปขุดเหมืองหาแร่ต่าง ๆ แต่จู่ ๆ ยังไม่ทันได้เจอแร่ ก็เจอแหวนสีทองสะท้อนแสงประกายอยู่บนพื้นซะแล้ว… เจซซี่หยิบแหวนขึ้นมา มันดูพิลึกมากเมื่อเห็นแหวนมันส่องแสงประกายแบบนี้ เขาเก็บไว้ในมือ และออกจากเหมืองทันที ต่อมาเจซซี่เดินทางกลับไปยังบ้านและก็ได้พบกับแอ็กเซล (Axel) และโอลิเวีย (Olivia) “เป็นไงมั่งละเจออะไรบ้าง หรือว่าเจอครีปเปอร์ไล่กวดมา” แอ็กเซลถามติดตลก โอลิเวียถองแอ็กเซลแรง ๆ หนึ่งที…
วันหนึ่ง ขณะที่ภัททิต้า (Pattita) เดินไปอย่างสบายใจเฉิบ จู่ ๆ ก็มีอะไรก็ไม่รู้ตกใส่หัวของเขาแรงมาก “โอ๊ย!“ ภัททิต้าเหลือบไปเห็นแหวนสีทองวงหนึ่ง แหวนวงนี้เองที่มันหล่นลงบนหัวเขา เขาโกรธมากที่เห็นภาพนี้ “เจ้าแหวนบ้า!” ภัททิต้าตะโกนและตรงไปกระทืบแหวนวงนั้นซ้ำ ๆ จนเหนื่อยหอบ ไม่มีแม้กระทั่งรอยขีดข่วนบนแหวนเลย “อะไรกันนะ” ภัททิต้าคิด จากนั้นก็หยิบแหวนขึ้นมา “เอาไปให้อาจารย์โฟมดูดีกว่า” เวลาต่อมา หลังจากไปคุยกับอาจารย์โฟมเสร็จแล้ว ภัททิต้าก็ยังสงสัยไม่หายกับเรื่องแหวนที่เขาถืออยู่ เพราะว่าที่อาจารย์ของเขาพูด ที่บอกว่าไม่รู้อะไรเกี่ยวกับแหวนวงนี้…
วันนี้คือวันที่ชายหนุ่มคนหนึ่งอาศัยอยู่ในบ้านและสร้างเนื้อเรื่องใหม่เกี่ยวกับตำนานแห่งแหวนต้องคำสาป เขาคนนี้ชื่อว่า “พอเพียง” (Porpiang) เขาคนนี้ชอบนำหนังสือของเขาไปตีพิมพ์และมีผลตอบรับที่ดีเยี่ยม แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์เนเธอร์รีแอคเตอร์ ที่สัตว์ร้ายจากเนเธอร์ผุดขึ้นมาเดินดินในโอเวอร์เวิลด์ และพวกเขาก็สามารถกำจัดปีศาจได้สำเร็จ และเหมือนว่าชีวิตของเขาถูกพลิกออกมาถึงสามร้อยหกสิบองศาเมื่อพวกเขากลายเป็นฮีโร่แล้ว อาวุธประจำตัวของพอเพียงคือ ดาบสองเล่ม เล่มหนึ่งเป็นเรดสโตน อีกเล่มเป็นลาปิซ ลาซูลี่ แต่วันหนึ่ง ขณะที่เขาเดินไปตามถนนที่มีคนเดินผ่านไปอยู่บ้าง แต่จู่ ๆ เขาก็พบสิ่งหนึ่งที่สะท้อนแสงอยู่ตรงหน้าและอยู่บนพื้นถนน แหวน แหวนสีทอง ไม่มีอะไรตกแต่งเลย และมันเป็นทองคำบริสุทธิ์แน่ ๆ ร้อยเปอร์เซ็นต์…
“ก่อนที่ผมจะเริ่มต้นนี้ ผมขอเกริ่นยาวไปก่อนนะครับ เกริ่นยาวไปไกลมาก” “อ้าว จะเกริ่นยาวทำไมครับ!“ “มันจะได้อรรถรสไงครับ” “ถ้าจุดเริ่มต้นมันเริ่มไปไกลขนาดนั้นขอให้มันกระชับ ๆ หน่อยได้ไหมครับ” “ถ้าอย่างนั้นผมก็จะเล่าส่วนที่เกี่ยวข้องให้ เอาเป็นว่าที่ผมจะเล่าให้คร่าว ๆ คือ มันเป็นเรื่องของแหวนสามวงที่ถูกคำสาปจากจอมมารลึกลับตนหนึ่งที่สูญสิ้นพลังลงแล้ว แต่ว่าคำสาปยังอยู่ และมันส่งผลทำให้คำสาปดังกล่าวทรงพลังยิ่งขึ้นก่อนที่จอมมารตนที่ว่าถูกปลิดชีพลง แต่มันมีเหตุการณ์หนึ่งผมบอกได้คำเดียวว่ามันเกี่ยวข้องกับแหวนโดยบังเอิญในขณะที่จอมมารผู้สาปแหวนสามวงนั้นยังมีชีวิตอยู่” และนั่นก็คือเรื่องเล่าของคนคนหนึ่ง “พี่ครับ พี่จะเล่าเรื่องอะไรเหรอครับ” น้องชายถาม “ก็เรื่องเกี่ยวกับแหวนสามวงที่ถูกคำสาปน่ะสิ” พี่ชายตอบ “มันเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับบุคคลคนหนึ่งที่ตนคิดว่าโดนแหวนเล่นงานโดยไม่รู้ตัว แต่แท้จริงแล้วแหวนกำลังต้องการพึ่งพาเขาต่างหาก…