แหม ช่วงเวลาที่ผ่านมาดูจะเงียบเหงาไปเลยนะครับสำหรับเว็บไซต์นี้ เอาเป็นว่า ในตอนนี้ผมพยายามจะทำอัปเดตคอมมูนิตี้ และก็วิกิเกี่ยวกับ Porpiang Writer อยู่พอดี แต่ประเด็นก็คือ… จากสถานการณ์ของเว็บไซต์ Fandom (Wikia/WikiCities เก่านั่นแหละครับ) ทำให้ Wiki ต่าง ๆ เริ่มทยอยย้ายหนีออกไปยังแพลตฟอร์มอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ Fandom อีกต่อไป ดังนั้น ผมเลยตัดสินใจแล้วว่าผมอาจจะไม่ใช้ Fandom…
บทที่แล้ว: เตรียมตัวก่อนคลอด ที่โรงพยาบาลไดมอนด์อาร์มสตรอง ผมกับโซเฟียถูกหามส่งโรงพยาบาลทั้งคู่ อาการเจ็บท้องก็รุนแรงสุด ๆ ขนาดเป็นเพอร์เฟกต์ฮิวแมนเทียร์สูงสุดยังเจ็บขนาดนี้ ถ้าเป็นคนธรรมดาล่ะก็คงเจ็บเจียนตายเลยครับ เพราะมดลูกมันบีบตัวจนแน่นเกินมนุษย์ทั่วไปแล้วอ่ะครับ แต่จะทำไงได้ ทั้งโลกเป็นเพอร์เฟกต์ฮิวแมนร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วนี่ แถมยังมีลำดับเทียร์อีกต่างหาก พอผมกับโซเฟียหายเจ็บท้องแล้ว พวกเราก็มาคุยกัน “นี่ โซเฟีย เป็นอะไรไหมครับ?” ผมหันมาถามภรรยาที่เตียงข้าง ๆ ผม “ฉันรู้สึกทรมานพอสมควรค่ะ” โซเฟียตอบ และมือของเธอก็วางบนหน้าท้องของเธอ “แต่ใจหนึ่งฉันก็ดีใจนะคะ ที่ในที่สุดก็จะได้เห็นหน้าลูกเร็ว…
บทที่แล้ว: วายร้ายล้วงคองูเห่า! วันที่ 18 สิงหาคม 8027 ก็ได้เวลาแต่งเพลงให้ลูกที่ยังไม่เกิดแล้วครับ เพราะที่จริงแล้วผมทำอะไรหลายอย่างมากเลยทั้งดนตรี, นักแสดง, นักกีฬา ทีนี้ผมปล่อยออกมาเป็นซิงเกิลเลย และบังเอิญว่าผมชอบแนวเพลงร็อก ผมเลยแต่งเนื้อเพลงเกี่ยวกับลูกชายลูกสาวที่อยู่ในท้องของพวกเรา “วันนี้พ่อกับแม่จะแต่งเพลงให้ลูกฟังนะ” ผมบอก เท่านั้นแหละ ยูกิโกะที่ได้ยินก็เริ่มดิ้นในท้องทันที “แหม ชอบใช่ไหมล่ะ” ผมถามลูกสาวขณะที่ใช้มือสองข้างประคองท้องที่กลมอย่างกับลูกโป่งเพื่อเช็กให้แน่ใจว่าทุกอย่างดีขึ้น และต้องเป็นไปอย่างราบรื่นอีกด้วย แค่คิดแบบนี้ผมก็ต้องคิดหนักแล้ว “เพ้นท์จ๊ะ ได้ข่าวว่าคุณจะแต่งเพลงให้ลูกสาวในท้องคุณเหรอ?” โซเฟียเดินมาถามผมถึงในห้องทำงานของผมเลยทีเดียว…
บทที่แล้ว: ผมกับภรรยาท้องทั้งคู่! วันที่ 5 กรกฎาคม ค.ศ. 8027 เวลา 03:10 น. ระหว่างที่พวกเราสองคนกำลังหลับอยู่นั้น จู่ ๆ ก็มีเสียงแกรก ๆ เหมือนกับมีใครกำลังงัดบ้าน ผมตื่นขึ้นมาเพื่อเปิดไฟห้อง แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือเข้าแอพลิเคชั่นควบคุมระบบในบ้าน เพื่อเปิดไฟให้หมดทั้งบ้าน และผมก็ได้ยินเสียงคนคุยกัน “ปัดโธ่เว้ย! ไฟสว่างโร่กันทั้งบ้านแล้ว!” “เฮ้ย แล้วทีนี้จะเอายังไงล่ะเนี่ย!” “ก็ต้องหนีสิวะ!”…
บทที่แล้ว: อารัมภบท เอาล่ะครับ เช้าวันที่ 1 มกราคม 8027 ผมกับโซเฟียตื่นมาด้วยสภาพมึนหัวผิดสังเกต แถมพอผมเข้าห้องน้ำจะแปรงฟันสักหน่อย กลิ่นยาสีฟันที่ผมบีบก็ทำเอาผมอาเจียนรดอ่างล้างหน้า ส่วนภรรยาผมจะล้างจานในห้องครัวอยู่ดี ๆ ก็อาเจียนใส่อ่างล้างจาน “ที่รัก ไหวไหม?” ผมถามเธอจากในห้องน้ำ “โอย เพลียผิดปกติจริง ๆ” โซเฟียตอบ “มันแปลก ๆ นะ น้ำยาล้างจานเนี่ยปกติไม่เคยเหม็นขนาดนี้มาก่อน” “ผมเองก็เพลียเหมือนกัน”…
ผมชื่อ พอเพียง “เพ้นท์” มาสเตอร์ ใคร ๆ ก็มองว่าผมเป็นอัจฉริยะเอวลอยเจ้าเสน่ห์ ทำไมน่ะเหรอ ก็หน้าตาของผมน่ะหล่อเหลา ผมรองทรงปกติสีดำ นัยน์ตาข้างซ้ายสีน้ำเงิน ข้างขวาสีแดง และมีข้อมือเรืองแสงตามสีนัยน์ตา ผิวสีเนื้อเหลืองอ่อน สวมแว่นตากรอบเหลี่ยมสีดำ แถมยังสวมเสื้อคลุมฮูดเอวลอยแขนยาวสีเทาทับเสื้อยืดเอวลอยแขนสั้นสีน้ำเงินอมดำ สวมกางเกงขายาวสีน้ำเงิน สวมเข็มขัดสายสีดำหัวสีเงิน ถุงเท้าสีขาว รองเท้าผ้าใบสีเทา แน่นอนว่าผมมีเสน่ห์พอสมควรเพราะผมโชว์หน้าท้องแบบมีกล้ามด้วย เอ๊ คุณผู้อ่านสงสัย ถึงตรงนี้แล้วผมจะปูหน้าตาของตัวเองไปเพื่ออะไร อ่ะ…
ในขณะที่สถานการณ์น้ำค่อย ๆ คลี่คลายไปทีละพื้นที่ ผู้คนก็เริ่มกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ แต่ก็ยังมีคำถามอีกมากมายที่ยังค้างคาใจอยู่ : ในอนาคตน้ำจะท่วมอีกไหม น้ำจะมาเมื่อไร เราจะรู้ได้ยังไง เราจะรับมือกับมันยังไง เราจะทำยังไงให้น้ำท่วมครั้งนี้เป็นบทเรียนให้เราเข้มแข็งขึ้นในการรับมือกับน้ำท่วมในคราวหน้า เพื่อให้เราไม่เป็นอย่างที่หลายเคยพูดกันเป็นประจำว่าคนไทยลืมง่าย วันนี้เรามีเก้าเรื่องในน้ำท่วมที่เราไม่อยากให้คุณลืมมาให้ดูกัน 1.เราจะเสียหายไปอีกนานแค่ไหน น้ำท่วมครั้งนี้ก่อให้เกิดความเสียหายมูลค่า 1.4 ล้านล้านบาท คำว่ามูลค่าความเสียหายไม่ใช่แค่ข้าวของที่พัง แต่สิ่งที่สำคัญในการคำนวณความเสียหายที่ไม่เคยนึกถึงก็คือค่าสูญเสียโอกาส สมมุติว่าเราเป็นนักเขียน ได้เงินเดือนละสองหมื่นบาท ทำงานด้วยโต๊ะราคาหนึ่งพันบาท คอมพิวเตอร์หนึ่งตัวราคาสามหมื่นบาท ถ้าน้ำท่วมจนโต๊ะและคอมพิวเตอร์พัง ความเสียหายไม่ใช่แค่…
เมื่อได้ยินคำว่าน้ำลด คนส่วนใหญ่ย่อมดีใจที่จะได้กลับไปใช้ชีวิตตามปกติ แต่คำว่าน้ำลดอาจไม่ใช่สิ่งที่ยินดีที่สุดสำหรับใครหลาย ๆ คน โดยเฉพาะผู้ประสบภัยน้ำท่วมบ้านไปแล้ว เพราะแม้น้ำจะลดแต่ความกังวลเรื่องสภาพบ้านหลังน้ำท่วมไม่ได้ลดลงตามเลย หลายคนจินตนาการไม่ออกว่าบ้านที่เราเคยอยู่จะเป็นอย่างไร จะมีอะไรเสียหายบ้าง และเราจะเริ่มต้นฟื้นฟูอย่างไร เพื่อให้เราเตรียมใจเตรียมพร้อมรับมือกับสภาพบ้านหลังน้ำท่วม วันนี้เราลองไปดูสถานการณ์สมมุติจากบ้านของนายสติและบ้านของครอบครัวมาสเตอร์ของนายพอเพียง หรือเพ้นท์ มาสเตอร์กันดีกว่าว่าหลังน้ำลดจะต้องเจอกับอะไรบ้าง (Porpiang Writer Special : Flood Attack 2011) “Porpiang Writer ซีซั่นพิเศษ ฝ่าวิกฤติน้ำท่วม…
ท่ามกลางวิกฤติน้ำท่วมที่ยาวนาน น้ำที่เริ่มเน่าเสียทำให้เราทุกคนเริ่มหาทางแก้ อีเอ็มบอลหรือลูกบอลจุลินทรีย์ ก็ดูจะเป็นเสมือนความหวัง แต่ก็ยังเต็มไปด้วยคำถามว่ามันใช้ได้จริงหรือเปล่า? วันนี้เราจะมาทำความรู้จักมันให้มากขึ้น และร่วมหาแนวทางการแก้ไขปัญหาน้ำเน่าเสียไปพร้อม ๆ กัน แต่ก่อนจะเข้าใจเรื่องอีเอ็มได้ เราต้องเข้าใจก่อนว่าน้ำเสียคืออะไร น้ำเสียไม่ใช่แค่น้ำที่มีสีดำหรือมีกลิ่นเหม็น แต่เป็นน้ำที่มีออกซิเจนไม่มากพอ สิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ไม่ได้ ดังนั้นน้ำที่เราเห็นว่าใสแต่มีออกซิเจนไม่พอหรือมีสารพิษเจือปนก็นับเป็นน้ำเสียได้เช่นกัน แล้วน้ำเสียเกิดจากอะไร เราลองไปตั้งต้นกันดูที่พื้นฐานสักนิด ว่าในน้ำมีอะไรบ้าง สามสิ่งที่มีในน้ำและเราควรรู้จักได้แก่ : 1.สารประกอบ เช่น ออกซิเจน ซัลเฟต ไฮโดรเจน…
ในช่วงภาวะน้ำท่วมอย่างนี้ เราเชื่อว่าหลายครอบครัวคงมีความกังวลเรื่องน้ำดื่มน้ำใช้ บางบ้านเล่าต่อ ๆ กันว่า น้ำที่บ้านมีสีและกลิ่นที่ผิดปกติ ยิ่งมีข่าวว่าน้ำประปาปนเปื้อน ยิ่งทำให้เรากังวลไปกันใหญ่ ว่าน้ำท่วมส่งผลกระทบกับระบบน้ำดื่มน้ำใช้ของเราอย่างไรบ้าง แต่ก่อนที่เราจะตอบคำถามนั้นได้ เราลองไปทำความรู้จักกับระบบน้ำประปาของเราให้มากขึ้นกันก่อนดีกว่า น้ำประปามาจากไหน? เมื่อฝนตกลงมา พื้นแผ่นดินบางส่วนได้รองรับน้ำเอาไว้ จนกลายเป็นแหล่งน้ำตามธรรมชาติ ทั้งแม่น้ำและลำคลอง และเมื่อเราต้องการแหล่งน้ำตามธรรมชาติมาใช้ แต่ไม่รู้ว่ามีอะไรเจือปนอยู่ในน้ำบ้าง เราจึงจัดการน้ำให้อยู่ในความดูแลของหน่วยงานหนึ่งที่เรียกว่า การประปา ซึ่งเป็นผู้ควบคุมการผลิตน้ำให้ได้มาตรฐาน การประปาได้ตัดคลองจากแหล่งน้ำตามธรรมชาติออกมา เรียกว่าคลองประปา เพื่อใช้เป็นแหล่งน้ำดิบ จากนั้นน้ำดิบจะเริ่มเข้าสู่กระบวนการปรับคุณภาพน้ำ…