ตอนที่หก : เรื่องเล่าของแอสลาน กับการหายตัวไปของเอ็ดมันด์
“เป็นเรื่องที่เลวร้ายจริง ๆ” บีเวอร์แก่ตัวผู้โคลงหัวช้า ๆ “ร้ายมากจริง ๆ เขาถูกตำรวจจับตัวไปแน่ ๆ ฉันรู้มาจากปากของนกตัวหนึ่งที่เห็นเหตุการณ์ (ตำรวจในนาร์เนียเป็นพวกสัตว์นะครับ) “พวกนั้นมุ่งหน้าไปทางเหนือ และเราก็รู้ว่าหมายถึงอะไร”
“ปราสาทนางแม่มดเนี่ยนะ?” ริวคิกพูด
“ใช่” บีเวอร์แก่ตัวผู้ตอบ “พวกที่ถูกจับไปน่ะ น้อยนักที่จะได้กลับออกมาอีก — เขาว่าปราสาทมีรูปหินเต็มไปหมด ในลานก็มี ชั้นบนก็มี ห้องโถงก็ด้วย นางแม่มดสาปใครต่อใครเป็นหินไปทั้งนั้น”
“ไม่ใช่เมดูซ่าแล้วล่ะ ไม่ได้มีตาที่จ้องใครแล้วกลายเป็นหินนะ สงสัยน่าจะต้องมีไม้กายสิทธิ์ประจำตัวนะ” ภัททิต้าพูด
“ก็ไม่ใช่น่ะสิ” พอเพียงเสริม
“แล้วยังไงน่ะพวกเธอมากันยี่สิบเอ็ดคน แล้วจะไปเรียกกองกำลังมาจากไหนล่ะ” บีเวอร์แก่ตัวผู้ถาม
“กองกำลังของผมมาจากโลกสี่มิติครับ” เจซซี่ตอบ “ผมคิดว่ากองกำลังต่อต้านของผมจะสามารถช่วยฟอนได้ละกระมัง”
“เจซซี่ บุตรแห่งอดัม นี่เธอไม่รู้รึไงว่าจอมมารร้ายคนหนึ่งที่ชื่อเกเวอร์รัสมาบุกที่นี่แล้ว (Gaverous)” บีเวอร์แก่ตัวผู้พูด
“อะไรนะ?” พอเพียงร้อง
“เขาเป็นคนที่เป็นคู่ปรับสำคัญของแม่มดขาว หากพวกของนางเข้ามาใกล้ปราสาทของเขาเมื่อไร รับรองร่างกลายเป็นเถ้าแน่” บีเวอร์แก่ตัวผู้ตอบ
“เฮ้อ…” ภัททิต้าตบหน้าผากตัวเองหนึ่งที “ผมไม่อยากจะคิดเลยถ้าเกิดว่าเนเธอร์รีแอคเตอร์กับอินเฟอร์โนรีแอคเตอร์กลับมาใช้งานอีกครั้ง แถมไม่ได้ใช้ที่ที่พวกเราจากมานะ ใช้ที่นี่นั่นละ”
“ถ้าเธอพูดถึงเนเธอร์รีแอคเตอร์กับอินเฟอร์โนรีแอคเตอร์ ทั้ง ๆ ที่พวกเรายังไม่ค่อยรู้จักมากเท่าไร ภัททิต้า บุตรแห่งอดัม” บีเวอร์แก่ตัวผู้บอก “ฉันจะบอกข่าวร้ายว่าพวกเกเวอร์รัสขนมาที่นี่หมดแล้ว และใช้มันไปแล้วเรียบร้อย ตอนนี้น่าจะอยู่ที่ไหนสักแห่งแล้วล่ะ”
“แล้วเดี๋ยวก่อนนะผมไม่แน่ใจแล้วว่ามันจะมีอะไรอีกไหม ผมเกรงว่าการกระทำแบบนี้มันจะทำให้เจ้าพวกวายร้ายจากโลกสี่มิติมาที่นี่อีกนะ” พอเพียงพูด
“ไม่รู้สิแต่เอาเป็นว่าเจ้าเกเวอร์รัสมันพูดถึงเรื่องแหวนสามวงต้องคำสาป ไม่รู้มันมาได้ยังไง แต่เมื่อนางรู้เรื่องแหวนเหล่านั้นก็รีบตามหาทันทีเลยว่ามันอยู่ไหน ที่จริงแล้วมันไม่ได้อยู่ที่นี่หรอก มันยังอยู่ในโลกที่เธอจากมา” บีเวอร์แก่ตัวผู้บอก
“คือแล้วเมื่อไรกองกำลังต่อต้านของผมจะมาล่ะครับ ผมมีเยอะแยะเลยนะครับ” เจซซี่ถาม
“ก็เดี๋ยวผู้นำจะเดินทางมาที่นี่ละ” บีเวอร์แก่ตัวผู้ตอบ “ได้ยินว่าพวกโมแจงกับพวกมูกซิตี้จะเข้ามาด้วย นอชกับฮีโร่บรายน์น่าจะพอรู้ได้ แต่ถ้า–“
“ไม่” ภัททิต้าพูด “ที่ผมพูดถึงเรื่องเนเธอร์รีแอคเตอร์กับอินเฟอร์โนรีแอคเตอร์คือจะบอกอะไรรู้ไหมครับ ผมจะบอกว่าผมกลัวพวก 303 จะมาบุกที่นี่แล้วสิ”
“303 — เอ็นติตี้ 303 น่ะเหรอ หายห่วงได้เลย ถ้าเกิดพวกเขามาก็คงทำอะไรไม่ได้ละมั้ง หรือถ้าทำได้คงไม่สะดุ้งสะเทือนพวกเรา เว้นแต่ว่ามันทำอะไรที่มันเกิดเรื่องบานปลายไปมากกว่านี้เท่านั้นละ”
“แล้วเดอะแบล็คล่ะครับ” พอเพียงพูด
“เอ่อ…”
“เซารอนกับซาเกราสด้วย” เจซซี่บอก
“ไอ้พวกนี้น่ะฉันก็หวั่น ๆ อยู่เหมือนกัน ยิ่งโดยเฉพาะตอนที่แอสลานเคลื่อนไหวแล้ว –” บีเวอร์แก่ตัวผู้บอก
“นั่นสิช่วยเล่าเรื่องแอสลานให้พวกเราหน่อยสิครับ” เจซซี่บอก
“พวกเธอไม่รู้ละหรือ แอสลานคือจอมราชา เป็นเจ้าแห่งป่าทั้งปวง” บีเวอร์แก่ตัวผู้อธิบาย “แต่เขาไม่ค่อยอยู่ที่นี่เท่าใดดอกนะ เขาไม่ได้ปรากฏตัวเลยในชั่วชีวิตที่ผ่านมาของฉัน แม้กระทั่งชั่วชีวิตพ่อของฉันด้วย แต่ข่าวแพร่สะพัดมาว่า แอสลานมาแล้ว ตอนนี้แอสลานอยู่ในนาร์เนียนี่ละ เขาจะมาจัดการกับนางราชินีแม่มดขาวนั่นเอง แล้วก็รวมทั้งเกเวอร์รัส เอ็นติตี้ 303 เดอะแบล็ค หรืออะไรก็แล้วแต่ที่มาคุกคามนาร์เนีย แอสลานต่างหากที่จะช่วยคุณทัมนัสได้ ไม่ใช่พวกเธอ”
“นางไม่สาปแอสลานให้เป็นหินเหรอ” เอ็ดมันด์ขัดขึ้น
“อยากโดนเบิ๊ดกะโหลกหรือโดนจิ้มตาต่อไหม” ริวคิกแหว ส่งสายตาขุ่นเขียวให้รุ่นน้อง “อย่าพูดเป็นลางสิ!“
“สาปเป็นหินรึ” บีเวอร์แก่ตัวผู้ฮาก๊ากใหญ่ “แค่ยืนมองหน้าแอสลานได้ก็นับว่าเต็มกลืนแล้วสำหรับนาง และฉันว่านางทำไมได้ถึงขั้นนั้นกระมัง ไม่ต้องห่วง แอสลานจะแก้ไขทุกอย่างให้เรียบร้อย ดังเช่นที่กล่าวไว้ในบทเพลงโบราณตอนหนึ่งว่า…
“‘เมื่อแอสลานปรากฏ
ความผิดทั้งหมดจะถูกต้อง
เมื่อแอสลานคำรามก้อง
ผองความทุกข์จะมลายไป
เมื่อแอสลานแยกเขี้ยวขาว
ฤดูหนาวจะปราชัย
แอสลานสลัดแผงคอคราใด
ฤดูใบไม้ผลิจะหวนมา‘
“เอาล่ะ พวกเธอจะเข้าใจได้เองเมื่อพบแอสลานแล้ว”
“เขี้ยว…แผงคอ…อย่าบอกนะว่าแอสลานไม่ใช่มนุษย์?” ธันวาพูดขึ้น
“ก็ฉันบอกเธอแล้วอย่างไรเล่า เขาเป็นเจ้าป่า เป็นโอรสของมหาจักรพรรดิแดนไกลโพ้นทะเล พวกเธอไม่รู้ดอกหรือว่าราชาแห่งผองสัตว์นั้นคือใครกัน…แอสลานเป็นสิงโต สิงโตยิ่งใหญ่ผู้เป็นราชันสิงโต” บีเวอร์แก่ตัวผู้อธิบายอย่างไม่ค่อยพอใจ
“อะไรนะ! แอสลานเป็นราชสีห์!” ลูคัสร้อง
“ทำนองนั้นละ” บีเวอร์แก่ตัวผู้ตอบ
ลูซี่ตกใจมาก “เขา-คงไม่มีอันตรายนะ”
“ลูซี่นี่กลัวสิงโตไปได้” ภัททิต้าพูด
“ถ้าใครสามารถอยู่ต่อหน้าแอสลานได้โดยตัวไม่สั่นงึก ๆ ละก็ ผู้นั้นต้องกล้าหาญกว่าใคร ๆ หรือไม่ก็บ้า ๆ บอ ๆ” บีเวอร์แก่ตัวเมียพูด
“ใครบอกว่าแอสลานไม่มีอันตราย แอสลานน่ะน่ากลัวและเป็นอันตรายมากทีเดียว แต่เขาเป็นฝ่ายดี” บีเวอร์แก่ตัวผู้บอก “เขาเป็นเจ้าป่านี่นา…ฉันบอกแล้ว”
“แล้วเวลาล่ะ ผมไม่อยากให้เดอะแบล็คกับ 303 รู้” พอเพียงบอก
“ไม่ต้องกลัว” บีเวอร์แก่ตัวผู้ตอบ “ให้พวกเธอไปพบแอสลานในวันพรุ่งนี้ ที่โต๊ะหิน ถ้าเป็นไปได้”
“กลัว 303 จะมาถล่มกลางคันอ่ะสิ” ภัททิต้าบอก “ผมไม่รู้ว่าโต๊ะหินอยู่ไหนด้วย
“ล่องลงแม่น้ำไป — หนทางไกลโขอยู่เหมือนกัน ฉันจะพาไปเอง” บีเวอร์แก่ตัวผู้ตอบ
“แล้วยังไงเหรอครับ มันมีคำทำนายว่าอะไรเกี่ยวกับที่นี่ แล้วมันเกี่ยวข้องกับแหวนต้องคำสาป เนเธอร์รีแอคเตอร์ อินเฟอร์โนรีแอคเตอร์ยังไงเหรอครับ” เจซซี่พูด
“คำทำนายมี แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับไอ้ของพรรค์นี้หรอก มันบอกว่า
“‘คราใดเลือดเนื้อเชื้อไขของอดัม
ได้สถิตบัลลังก์แห่งแคร์พาราเวล
ครานั้นกาลชั่วร้ายย่อมหลีกลี้เร้นหาย
แลมลายสุดสิ้นซึ่งผองภัยทั้งมวล‘
“พวกเราเคยได้ยินเรื่องแอสลานมาที่นี่ตั้งแต่สมัยนาน–นานมาแล้ว นานจนไม่มีใครบอกได้ว่าเมื่อไร ก่อนหน้านี้ยังไม่เคยมีเผ่าพันธุ์ของพวกเธอมาถึงที่นี่เลย” บีเวอร์แก่ตัวผู้อธิบาย
“แล้วนางแม่มดล่ะ” พึกกาจิถาม “ไม่ใช่มนุษย์เหรอ แล้ว 303 นูล เดรดลอร์ด เดอะแบล็ค แล้วก็พวกเกเวอร์รัสล่ะ”
“ทางสำหรับเดอะแบล็คนั้น เขาปรากฏตัวเป็นมนุษย์นั่นละแต่มีเลือดเป็นปีศาจ พวกเอ็นติตี้ 303 ก็เช่นกัน ส่วนเกเวอร์รัสนั้นมีสายเลือดปีศาจระดับโหด ๆ ในตำนานที่ชื่อเสียงอันเลวร้ายโด่งดังไปทั่ว เช่นจอมมารผู้ที่สาปแหวนสามวงต้องคำสาปที่ว่านั่นละ เกเวอร์รัสจึงโหดร้ายกว่าเดิมอีก” บีเวอร์แก่ตัวผู้อธิบาย “ส่วนนางแม่มดนั้น นางอ้างว่าเป็นมนุษย์ ด้วยข้ออ้างนี้ละที่นางตั้งตนเป็นราชินี แต่นางไม่ใช่ธิดาแห่งอีฟ นางสืบเชื้อสายมาจากภรรยาคนแรกของอดัม” ถึงตรงนี้บีเวอร์แก่ตัวผู้ก้มหัวแสดงคารวะ “ปฐมบิดาของพวกเธอ — ภรรยาคนแรกของอดัมเรียกขานกันว่า ลิลิท นางแม่มดเป็นพวกจินน์โดยสายเลือดของนางทางหนึ่ง สวนอีกทางหนึ่งนั้นมีสายเลือดพวกยักษ์ นางมิได้มีสายเลือดของมนุษย์แท้จริงในร่างแม้แต่หยดเดียว”
“เพราะอย่างนั้นน่ะสินางถึงได้ชั่วร้ายไปทั้งตัว ใช่ไหม พ่อเฒ่า” บีเวอร์แก่ตัวเมียถาม
“จริงอย่างที่แม่เฒ่าว่า” บีเวอร์แก่ตัวผู้ตอบ “เรื่องเกี่ยวกับมนุษย์นี่ ความเห็นของใคร ๆ ก็อาจแบ่งออกได้เป็นสองฝ่าย แต่ในความเห็นเกี่ยวกับตัวอะไรที่มองดูเหมือนมนุษย์ แต่ไม่ใช่มนุษย์นั้น จะต้องไม่มีความเห็นแตกแยกเป็นอันขาด” (ขออภัยผู้อ่าน ณ ที่นี่ด้วยนะครับ)
“ฉันเคยพบคนแคระที่ดีนะ” บีเวอร์แก่ตัวเมียพูด
“ฉันก็เคย แต่น้อยเต็มที” บีเวอร์แก่ตัวผู้พูด “และพวกคนแคระก็เป็นพวกที่เหมือนมนุษย์น้อยนัก ว่ากันรวม ๆ แล้วล่ะก็… เชื่อฉันสิ เวลาพบอะไรที่ลักษณะเหมือนกับจะเป็นแต่ไม่ใช่มนุษย์ หรือครั้งหนึ่งเคยเป็นมนุษย์แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว หรือน่าจะเป็นมนุษย์แต่ไม่ใช่มนุษย์จริง ๆ — ถ้าพบพวกอย่างนั้นละก็ ต้องคอยจับตาดู อย่าเผลอ แล้วรีบคลำหาอาวุธเอาไว้ทีเดียวล่ะ
“เหตุนี้เองนางแม่มดจึงต้องคำอยสอดส่องเรื่องมนุษย์เข้ามาในนาร์เนีย นางเฝ้าระแวดระวังการมนของพวกเธอตั้งหลายปีแล้วล่ะ นี่ถ้ารู้ว่าพวกเธอมีกันสี่คน นางจะยิ่งเพิ่มพิษสงอันตรายหนักขึ้นอีก และก็เป็นอันตรายมากกว่าเดิมด้วยเมื่อเจอศัตรูใหม่อย่างพวก 303 เดอะแบล็ค และยังเกเวอร์รัสอีก และยิ่งรู้ว่ามีแหวน มีเนเธอร์รีแอคเตอร์ มีอินเฟอร์โนรีแอคเตอร์ นางก็จะต้องรอให้มาครอบครองเป็นของนาง”
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกัน” ภัททิต้าถาม
“เพราะมีคำพยากรณ์อีกข้อหนึ่ง –” บีเวอร์แก่ตัวผู้ตอบ “จริง ๆ มันมีสองคำ คำหนึ่งกล่าวว่า ณ แคร์พาราเวล ซึ่งปราสาทตั้งอยู่ที่ชายทะเลปากแม่น้ำสายนี้และควรเป็นเมืองหลวงของนาร์เนีย หากแม้นทุกสิ่งเป็นไปดังที่ควร — ณ แคร์พาราเวลานี้มีบัลลังก์สี่องค์ และในนาร์เนียมีคำกล่าวมาแต่บุราณกาลแล้วว่า เมื่อใดที่บุตรแห่งอดัมสองคนและธิดาแห่งอีฟสองคนนั่งบัลลังก์ทั้งสี่นี้ เมื่อนั้นก็จะเป็นอวกาสของการตกอยู่ใต้อำนาจของนางแม่มดขาว และเป็นอวสานแห่งชีวิตของนางแม่มดเองด้วย
“ส่วนอีกคำพยากรณ์หนึ่งบอกว่า เมืองแอนเซเนี่ยม (Anzenium) อาณาจักรอันไกลโพ้นอันมีแคร์พาราเวลเป็นเมืองหลวงหลัก อาณาจักรแอนเซเนี่ยมมีบัลลังก์ยี่สิบเอ็ดองค์ เมื่อใดที่ไตรวีรบุรุษทั้งยี่สิบเอ็ดคน มีบุตรแห่งอดัมสิบสี่คน มีธิดาแห่งอีฟเจ็ดคน นั่งบัลลังก์ทั้งสี่นี้ ก็จะทำให้บ้านเมืองเป็นที่คุ้มกันจากการถูกพลังชั่วร้ายปกคลุม และเป็นพระราชาใหญ่พระราชินีใหญ่เหนือพระราชาพระราชินีทั้งปวง
“ฉะนั้นเมื่อพวกเธอทั้งยี่สิบห้ามาที่นี่เราจึงต้องระวัง ถ้านางแม่มดรู้เรื่องพวกเธอ ชีวิตของพวกเธอจะไม่มีค่ามากไปกว่าหนวดแข็ง ๆ ของฉันเท่าใดนัก”
ไม่มีใครในห้องนี้นอกจากพอเพียงสังเกตอะไรอื่นเป็นเวลานานขณะที่ฟังบีเวอร์แก่ตัวผู้เล่า และเมื่อเงียบไปหลังจากจบเรื่องนี้ ลูซี่ก็ร้องขึ้นว่า
“เอ๊ะ เอ็ดมันด์อยู่ไหน”
ทั้งหมดเงียบกริบไปครู่หนึ่ง แล้วทุกคนก็ถามกันวุ่นวายเลย
“ใครเห็นเขาเป็นคนสุดท้าย เขาหายไปนานเท่าไรแล้ว”
“อยู่ข้างนอกรึเปล่า”
จากนั้นพอเพียงก็ออกตัวพูดให้ทุกคนสงบลง
“อภัยให้ฉันด้วยทุกคน ฉันอุตส่าห์จับตาดูเอ็ดมันด์แล้ว แต่หมอนี่มันชอบคิดว่าตัวเองคงจะเล่นทีเผลอตอนที่ฉันไม่สนใจเขา ทั้ง ๆ ที่จริงฉันสนใจเขาตลอดเวลา ความที่ฉันตาไวเป็นพิเศษทำให้ฉันเห็นเอ็ดมันด์ค่อย ๆ เดินออกไปจากบ้านนี้อย่างเงียบ ๆ ฮื่ย! คิดว่าฉันไม่รู้เรอะ!“
และแล้วไม่นานทุกคนก็ออกไปข้างนอกร้องตะโกนเรียกเอ็ดมันด์ — แต่เนื่องจากหิมะตกลงมาหนามากไม่หยุดไม่หย่อน และหิมะที่ตกมันกลบทุกอย่างแม้กระทั่งเสียง
“เฮ้อ ไม่ไหวแล้วล่ะ ฉันไม่อยากจะเสียเวลาหาเจ้าเอ็ดมันด์แล้ว” ภัททิต้าพูด
“นั่นน่ะสิ” ริวคิกพูด “เอ็ดมันด์หนีไปหานางแม่มดขาวจาดิสอีกแล้ว เขาไม่อยากให้นางทำดีเท่าที่ดีต่อเขา และไม่ยอมเชื่อที่พวกเราพูด ๆ กันมาตลอดเลย นางดีต่อเขากว่าพวกนั้นเสียอีก และเชื่อว่าดีกว่าแอสลานอีกด้วย”
“ถูกต้อง” บีเวอร์แก่ตัวผู้ตอบ “เขาเคยมาที่นี่ลำพังคนเดียวก่อนหน้านี้หรือเปล่า”
“ครับผม” ริวคิกตอบ
“แล้วเขาเล่าให้ฟังหรือเปล่าว่ามาทำอะไรบ้างหรือได้พบใครบ้าง” บีเวอร์แก่ตัวผู้ถาม
“ไม่ค่ะ พวกเราเล่าแทน” เรเชลช่วยตอบ
“ถ้าอย่างนั้นก็อย่างที่ฉันกับริวคิก บุตรแห่งอดัมบอกนั่นละ” บีเวอร์แก่ตัวผู้ตอบ “เขาพบนางแม่มดและร่วมเป็นฝ่ายเดียวกับนางเสียด้วย เขาคงได้ฟังคำบอกเล่าแล้วว่านางอยู่ที่ไหน ฉันไม่อยากกล่าวอะไรก่อนหน้านี้ดอก เพราะเห็นว่าถึงอย่างเราเขาก็เป็นพี่น้องของพวกเธอ แต่พอเห็นครั้งแรกฉันก็หมายหัวไว้แล้วว่าเขาจะทรยศหักหลัง เขามีลักษณะว่าเคยพบนางแม่มดและกินอาหารของนางมาแล้ว ถ้าพวกเธออยู่นาร์เนียไปนาน ๆ เธอจะบอกได้เช่นกัน — แววตามันฟ้องพิกล”
“ผมก็คิดว่าอย่างนั้นละ” พอเพียงพูดขึ้น “เมื่อผมเจอเจ้าหมอนี่ตอนที่โผล่ออกมาตู้เสื้อผ้า เขาหน้าซีดลง หน้าเขียวด้วย บางทีเขากุมท้องและทำหน้าราวกับจะอ้วกออกมาด้วย สงสัยเทอร์คิช ดีไลท์ ขนมหวาน ‘เลี่ยน‘ ชื่นใจนั่นคงจะทำพิษแล้วล่ะ จากนั้นผมก็รู้ลางสังหรณ์ว่าเขาอาจจะหนีไปอยู่กับจาดิสด้วย ปรากฏว่าลางสังหรณ์ของผมถูกต้องซะด้วย”
“แต่ว่า” ปีเตอร์ขัดขึ้น น้ำเสียงออกจะสะอึกลึก ๆ “เราต้องตามหาเขา เขาเป็นน้องชายของพวกเรานะครับ และยังเป็นเด็กอยู่ซะด้วย”
“ไปที่ปราสาทแม่มด! ไอ้บ้า! นายไม่เข้าใจรึไง!” พอเพียงคำราม “ขืนไปที่นั่นก็มีแต่ตายกับตาย! ฉันไม่รับรองความปลอดภัยของพวกเราในปราสาทแม่มดนั่นหรอกถ้าไม่มีแอสลาน!“
“ก็ใช่ละ นางแม่มดต้องการตัวพวกเธอ ตลอดเวลามานี้นางนึกถึงแต่คำพยากรณ์เรื่องบัลลังก์ทั้งสี่ที่แคร์พาราเวล บางทีอาจจะนึกถึงเนเธอร์รีแอคเตอร์กับอินเฟอร์โนรีแอคเตอร์ที่คนครอบครองคือเกเวอร์รัส หรือแหวนต้องคำสาปทั้งสาม หรือบัลลังก์ทั้งยี่สิบเอ็ดที่แอนเซเนี่ยม เมื่อใดก็ตามที่นางได้พวกเธอยี่สิบห้าคนไปยังปราสาท นางก็ทำงานสำเร็จ ในลานปราสาทก็จะมีรูปหินขึ้นมาใหม่อีกยี่สิบห้ารูปก่อนที่พวกเธอจะอ้าปากพูดอะไรด้วยซ้ำ แต่นางจะให้น้องชายของพวกเธอทั้งสี่มีชีวิตอยู่ต่อไปตราบเท่าที่เขาอยู่ในกำมือของนางเพียงคนเดียวเพราะนางต้องการหลอกใช้เขาเป็นนกต่อล่อให้พวกเธอติดกับ” บีเวอร์แก่ตัวผู้เสริมยาว
“ตอนนี้ก็แปลว่าเอ็ดมันด์คงจะกลายเป็นเหยื่อล่อพวกเรามาติดกับดักแม่มดไปแล้วโดยสมบูรณ์สินะ” แอ็กเซลบอก “พวกนี้นี่มันชั่วร้ายมาก ๆ เลย ถ้าฉันเจอนางนะฉันจะอัดทีเอ็นทีใส่ปราสาทของนางให้มันราบเป็นหน้ากลองเลย — ถ้าอยู่กับแอสลานนะ”
แล้วบีเวอร์แก่ตัวเมียบอกว่า
“ฉันว่าเราต้องรู้ให้แน่ว่าเอ็ดมันด์หลบไปตอนไหน เขาจะบอกนางแม่มดได้มากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับว่าเขาได้ยินไปแค่ไหน เราพูดถึงแอสลานก่อนที่เขาจะหลบออกไปหรือเปล่า หายยังไม่ทันพูดก็ค่อยยังชั่วหน่อย เพราะนางแม่มดอาจจะยังไม่รู้ว่าแอสลานมาที่นาร์เนียแล้วหรือรู้ว่าเรากำลังไปพบเขา นางก็จะเผลอ ไม่ทันระวังเรื่องนี้”
“เอ็ดมันด์ยังอยู่นะครับ และเขาก็ค่อย ๆ เคลื่อนออกไปยังประตูหลังจากรู้ว่ามาพบที่โต๊ะหิน” พอเพียงบอก “ความตาไวของผมมันจับได้อยู่แล้ว ใช่ไหมทีโอ้ ใช่ไหมโอซีย์”
พอเพียงหันไปทางทีโอ้กับโอซีย์ และทีโอ้ก็ขยับปากและเสียงหนึ่งมาจากปากของมัน
“ใช่ครับ ตอนผมเห็นเขาออกไปข้างนอก ผมกับโอซีย์ขู่เขาแต่เขาไล่พวกเราไม่ให้ยุ่งเฉยเลย”
“เฮ้ย! ทีโอ้พูดได้ด้วยแฮะ” ภัททิต้าร้อง
“ในนาร์เนีย สัตว์ตัวไหนก็พูดได้ทั้งนั้นละ ไม่ว่าจะมาจากโลกไหนก็ตาม ถ้ามาที่นี่ก็ต้องพูดได้เป็นธรรมดา” โอซีย์ขยับปากพูดมั่ง
บีเวอร์แก่ตัวผู้เริ่มเครียด ทุกคนที่นี่ก็เครียดด้วย
“ถ้าเขาอยู่ด้วยตามที่พอเพียง บุตรแห่งอดัมบอกตอนนั้น นางแม่มดก็จะต้องรู้เรื่องและนางจะนั่งเลื่อนไปสกัดทางเราไม่ให้ไปถึงโต๊ะหิน เราก็จะถูกจับตัวและไปไม่ถึงแอสลาน” บีเวอร์แก่ตัวผู้บอก
บีเวอร์แก่ตัวเมียออกตัวทันทีว่า “นั่นไม่ใช่สิ่งแรกที่นางจำหรอก ถ้าฉันเดาไม่ผิดพอนางรู้จากปากเอ็ดมันด์ว่าพวกเราอยู่ที่นี่ นางต้องรีบมาที่นี่ในคืนนี้ละ หากเอ็ดมันด์ไปก่อนหน้านี้สักครึ่งชั่วโมงแล้ว อีกสักยี่สิบนาทีนางแม่มดจะมาถึงนี่เป็นแน่”
“พวกเราต้องรีบไปจากที่นี่ทันที ด่วน!” เจซซี่พูด