สรุปเนื้อเรื่อง Fantasy Warfare และ Road To Fantasy Warfare ภาค 2
มายังมหายุคที่เจ็ดละครับผม ซึ่งจะมีสภาผู้สร้างโลก (World Builder Congress) ซึ่งประธานสภาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งจนปัจจุบัน คือ อลัน สมิธธี (Alan Smithee) เหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน และมีเทพผู้สร้างสี่องค์ องค์หนึ่งสร้างโอเวอร์เวิลด์ ส่วนองค์ที่สอง สาม สี่ สร้างเนเธอร์ ดิเอนด์ และเอเธอร์ตามลำดับ ซึ่งตอนนี้มี กรัมบอร์ฟ เดอะ เดสทรอเยอร์ (Gramborf The Destroyer) ออกอาละวาด ทำให้เกิดต้องเกิดผู้ครองขุมทรัพย์ครูเสดคนแรกอีกครั้ง คราวนี้แตกต่างแบบพลิกหัวพลิกหางพลิกกลางตลอดตัวแบบ 360 องศาเลยครับ เขาคนนี้ละครับชื่อว่า อัลซานาล (Alzanal) ซึ่งโชคดีแบบพลิกชีวิตที่ได้เจอหน้าพ่อกับแม่เป็นครั้งแรก และได้อยู่ในอาณาจักรใหญ่ ๆ ด้วย และไม่เคยถูกกรัมบอร์ฟเข้าถล่มเลย แต่สุดท้ายก็ต้องรู้ความจริงอยู่ดีว่าเป็นบุตรของเทพเจ้าผู้สร้างเอกภพ และไปจัดการเอาขุมทรัพย์ครูเสดแล้วปราบแกรมบอร์ฟ ซึ่งง่ายกว่าหกมหายุคแรกมาก
แต่ขณะเดียวกันก็ถือเป็นมหายุคแรกที่มี Triple Hero รุ่นแรกเกิดขึ้น ซึ่งครองแหวนธำมรงค์คนละแหวน อันประกอบไปด้วยแหวนแห่งพลัง แหวนแห่งภูมิปัญญา และแหวนแห่งความกล้า แต่จู่ ๆ มีปีศาจตนหนึ่งต้องการครองแหวนสามวง จึงฆ่าพวก Triple Hero ทิ้งและสาปให้แหวนตกอยู่ใต้อำนาจด้วย
จากนั้นเกิดสงครามที่ซาเกราสโผล่มาก่อน (Sageras) จากนั้นก็จะมี เอ็นติตี้_303 (Entity_303) นูล (Null) เดรดลอร์ด (Dreadlord) Angel of Death และเกเวอร์รัส (Gaverous) โผล่มาด้วย ซึ่งมันจะไปตรงกับครั้งที่สองซึ่งจะมี Triple Hero รุ่นที่สองโผล่มา บวกกับผู้ครองขุมทรัพย์ครูเสดคนที่สองอย่างธัสโตเมียร์ (Thastomir) ที่ชะตากรรมเดียวกับอัลซานาล และอัลซานาลซึ่งแก่มากแล้ว (แต่ยังแข็งแรงดีเหมือนตอนหนุ่ม) ได้ส่งต่อพลังขุมทรัพย์ครูเสดให้กับธัสโตเมียร์ และจากนั้นก็ปราบกรัมบอร์ฟซึ่งฟื้นคืนชีพใหม่ ๆ ได้ง่ายเหมือนเดิมอีกแล้ว (กรัมบอร์ฟได้สู้กับห้าวายร้ายดังกล่าวได้แค่ไม่เท่าไรเอง) แล้วจากนั้นก็รีบไปรวมพลังกับ Triple Hero รุ่นที่สองที่ได้แหวนสามวงมาแล้ว ซึ่งสละชีวิตฆ่าปีศาจผู้สาปแหวนทันทีเพื่อกำจัดคำสาปของแหวน จากนั้นแหวนก็ตกอยู่ในมือของธัสโตเมียร์ เขาจึงเก็บไว้จนกระทั่งแก่มากพอ ๆ กับอัลซานาล (แต่ยังไหวเหมือนกัน) และส่งต่อให้คนที่สามอย่างธีโอนาร์ (Theonar) เป็นผู้เก็บแหวนไว้ และมอบขุมทรัพย์ครูเสดไว้ให้เขาด้วย
ธีโอนาร์เป็นผู้ครองขุมทรัพย์ครูเสดคนที่สามที่มีชะตากรรมเดียวกับธัสโตเมียร์และอัลซานาล แต่คราวนี้นอกจากจะต้องปราบกรัมบอร์ฟเหมือนเดิมแล้ว ยังเจอกับมอร์กอธ เบาเกลียร์ (Morgoth Bauglir) จากมิดเดิ้ลเอิร์ธอีก และตอนนี้เขาต้องรวมพลังกับ Triple Hero รุ่นที่สาม เพื่อพิชิตศัตรู และในที่สุดก็พิชิตได้แต่ต้องเสีย Triple Hero รุ่นที่สามไปอีกแล้ว
แล้วหลังจากนั้นก็มีดอทอีเอ็กซ์อี (.EXE) อันเกิดจากการทดลองอันชั่วร้ายที่ผิดพลาดของดร.กรินอส (Dr.Grinos) ทำให้เกิดสัตว์ประหลาดจอมทำลายล้างขึ้นมา และทุกวายร้ายปราบดอทอีเอ็กซ์อีหลายครั้งแต่มันดันเกิดขึ้นมาใหม่อีก
เรามาพูดถึงเรื่องยุคสงครามจอมมารแล้วกันครับ มันเป็นยุคที่เกิด “ดินแดนอันไกลโพ้นที่สุด (The Farthest Land)” ของกษัตริย์อาเธอร์ (King Arthur) และพ่อมดเมอร์ลิน (Great Wizard Merlin) ซึ่งดินแดนนี้ไม่มีใครสามารถเข้าไปได้ นอกจาก เกเวอร์รัสและซาเกราสนั่นเองครับ
(ตรงนี้มันจะอ้างอิงถึงคาร์ล แม็คคาลิเบอร์ (Carl McCalibur) ริก (Rigg) เมจิกโคลด์ (MagicCold) ฯลฯ จาก Stranded Story ด้วย โดยพวกเขาจะทันตอนก่อนที่มอร์’ดานและสคิปมากะเกิดขึ้นมา)
แล้วทีนี้สงครามจอมมารครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อมอร์’ดานกับสคิปมากะ (Mor’dan and SkipMAKA) ถือกำเนิดขึ้นและเริ่มต่อสู้กันหมายจะครองดาบเอ็กซ์คาลิเบอร์ และนั่นทำให้เกิดนักล่าจอมมาร (Dark Lord Hunter) รีซิสแทนซ์ (Resistance) และไนท์วาริเออร์ (Knight Warrior) ขึ้นมา
เหล่านักล่าจอมมาร ไนท์วาริเออร์ และรีซิสแทนซ์ ถูกสร้างโดยกษัตริย์อาเธอร์ แต่มอบหมายให้เจ้าแห่งพลังบริสุทธิ์คนแรกเป็นคนดูแลแทน ส่วนพระองค์จะทรงช่วยในเรื่องการโจมตีโดยตรง เพื่อรอให้ผู้พิทักษ์เอกภพคนแรกมาที่ดินแดนอันไกลโพ้นที่สุดด้วย
สำหรับเจ้าแห่งพลังบริสุทธิ์คนแรกนั้นเป็นเพื่อนกับผู้นำไนท์วาริเออร์คนแรก และไปรบที่ไหนก็จะไปรบกัน พวกเขาจะอยู่ด้วยกัน กินด้วยกัน สู้ด้วยกัน ทว่าพอมอร์’ดานและสคิปมากะถูกฆ่าตาย ผู้นำไนท์วาริเออร์คนแรกก็ตายไปด้วย
สงครามจอมมารครั้งที่สองกับครั้งที่สามก็คล้าย ๆ กัน แต่ครั้งที่สี่ ทั้งกรัมบอร์ฟคืนชีพบ้างละ มีเซารอน (Sauron) บ้างละ มี Triple Hero รุ่นที่สี่ที่หนึ่งในนั้นชื่อ VariableDart Brian Magnus 865 บ้างละ มีผู้ครองขุมทรัพย์ครูเสดคนที่สี่ชื่ออิสลูเนียร์ (Islunir) บ้างละ มีเจ้าแห่งพลังบริสุทธิ์ที่ชื่อเอเลนิลบ้างละ (Elenil) มีผู้นำไนท์วาริเออร์ชื่อว่าเรเวนบ้างละ (Raven) มีผู้พิทักษ์เอกภพชื่อเบนจามิน เลสเตอร์ที่ซี้กับคาร์ลในภายหลังบ้างละ (Benjamin Lester) และนี่ยังไม่นับลูกน้องของสคิปมากะอย่างแอชลี่ย์ (Ashley) กับลูกชายของเรเวนอย่างเบรฟ ไวท์อีกนะ (Brave White)
แถมเรเวนถูกฆ่าไปพร้อมกับกิล-กาลัด (Gil-Galad) อนาริออน (Anarion) และเอเลนดิล (Elendil) อีก แถมอีกทีอิซิลดูร์ (Isildur) ตัดนิ้วเซารอนแล้วยึดแหวนของเซารอนโดยไม่นานโดนสังหารอีก
(อ้อลืมบอกอีกอย่างหนึ่งคือ ผู้นำไนท์วาริเออร์ตั้งแต่รุ่นแรกถึงเบรฟ จะเป็นการสืบเชื้อสายเดียวกันนะครับ)