ตอนที่เก้า : ชีวิตทนทุกข์ของเอ็ดมันด์
ย้อนกลับมาที่เอ็ดมันด์อีกสักทีเถอะได้โปรดนะ
ตอนนี้เอ็ดมันด์รู้แล้วว่าพวกแม่มดจาดิสเริ่มไม่ใจดีกับเขาเหมือนแต่ก่อนแล้ว เหตุไม่พาพวกพี่น้องของเขาและพวกไตรวีรบุรุษมาที่ปราสาทนี้ และโดนแม่มดใช้เป็นทาสแทน นาง — เอ่อ — ยัดเอ็ดมันด์ลงไปในเลื่อนแล้วก็ให้คนแคระขับเลื่อนไป
นางแม่มดเรียกมอกริมให้ส่งเหล่าหมาป่าที่วิ่งเร็วที่สุดไปตามกลิ่นพวกมนุษย์เพื่อฆ่าให้หมดไม่ว่าเจอใครก็ตาม ถ้าไปก่อนแล้วก็ไปที่โต๊ะหินทันทีแต่อย่าให้ใครเห็น (หารู้ไม่ว่าเกเวอร์รัส เดอะแบล็ค และพวกเอ็นติตี้ 303 ก็เคลื่อนไหวประมาณนี้เหมือนกัน) แต่ก็เป็นโชคร้ายที่หลักฐานที่พวกพอเพียงทิ้งไว้โดนหิมะฝังทำลายเรียบ เลยหาไม่เจอ
ความทนทุกข์ทรมานของเอ็ดมันด์มาถึงแล้วและก็ยาวด้วยเมื่อต้องอยู่กับจาดิส
แล้วต่อมาก็พบกับว่ามีพวกลูกน้องจาดิสกำลังรื่นเริงอยู่เพราะได้ของขวัญจากซานตาคลอสเพราะแอสลานกำลังเคลื่อนไหวแล้ว (ก็ถึงคราวที่เกเวอร์รัสออกโรงแล้วล่ะ)
และยิ่งเวลาผ่านไปหิมะละลายลงไป อากาศอุ่นขึ้นเรื่อย ๆ เลื่อนจาดิสเริ่มช้าลงเรื่อย ๆ สุดท้ายก็สะดุดติดเข้ากับหล่มโคลน และในความเงียบมีเสียงน้ำไหลรอบตัว เอ็ดมันด์รู้สึกเฮลั่นในใจแต่แล้วก็พบว่าโดนแม่มดสั่งให้ไปเอาเลื่อนออกจากโคลน และคนแคระก็ช่วยกันขับเลื่อนออกไปได้อีกหน่อยแต่สุดท้ายก็ติดกับหล่มชนิดที่ว่าไปต่อไม่ได้แล้ว ให้เดินไปแทน
เอ็ดมันด์โดนจับมัดมือไพล่หลังและโดนสั่งให้เดินนำไปทันที ก็เห็นทั้งดอกไม้และต้นไม้อันแสนสวยงามสุด ๆ แม้แต่คนแคระก็ยังอึ้งจนถึงกับบอกว่า
“นี่ไม่ใช่หิมะละลายธรรมดาเสียแล้ว นี่คือฤดูใบไม้ผลิต่างหาก! เราจะทำอย่างไรกันดี ฤดูหนาวของพระราชินนีถูกทำลายลงแล้ว! นี่ต้องเป็นอิทธิพลของแอสลานแน่ ๆ”
ชื่อนี้จาดิสไม่พอใจมาก ทำเสียงเขียวใส่คนแคระกับเอ็ดมันด์ว่า
“เจ้าสองคนนี่ ถ้าใครขืนเอ่ยชื่อนั้นอีกครั้งเดียว ข้าจะฆ่าเสียทันที!“