ตอนที่สี่ : ประวัติความเป็นมาของแหวนทั้งสาม
พอเพียงนำแหวนนี้ไปดู และได้ฟังโซเฟียอธิบายดังนี้
แหวนวงที่พอเพียงครอบครองไว้คือหนึ่งในสามแหวนต้องคำสาปของไตรวีรบุรุษรุ่นแรก ซึ่งเมื่อครั้งอยู่ในมือของทั้งสาม มันยังไม่ถูกสาปไว้ แต่เมื่อจอมมารร้ายไม่ทราบชื่อที่ถูกทั้งสามล้มไปนานแล้วกลับมาแล้ว ทั้งสามก็ต้องปกป้องสุดขีดเพื่อแหวน เพราะจอมมารตนนี้ต้องการแหวนเพื่อครอบครองเอกภพ และสั่งให้จิตวิญญาณในแหวนวงนี้ได้ตกอยู่ภายใต้อำนาจของตนเท่านั้น (อ้อ ลืมบอกไปว่าเมืองนี้สร้างแหวนมาโดยสร้างจิตวิญญาณให้มาสถิตอยู่อยู่ในแหวน และรับใช้ผู้กล้าที่สวมแหวนด้วยการมอบพลังไม่จำกัดให้พวกเขา)
สุดท้ายการปกป้องก็ล้มเหลวเมื่อจอมมารตนนั้นฆ่า “ราชสีห์” สามคนได้สำเร็จ และแหวนทั้งสามก็ถูกสาปให้ตกอยู่ใต้อำนาจของจอมมารและใช้มันในการครอบครองเอกภพ และนำแหวนไปให้ผู้บริสุทธิ์แต่ละคนสวมใส่เพื่อที่จะสูบวิญญาณออกไปและกักขังไว้ทรมาณไม่ให้ออกมา และถึงขั้นแปรเปลี่ยนให้พวกวิญญาณเหล่านั้นกลายเป็นปีศาจเลยทีเดียว แต่เมื่อพลังของจอมมารคนนั้นอ่อนแอลง มันทำให้จิตวิญญาณในแหวนนั้นทรยศเขาและตามหาคนที่พอจะพึ่งพาได้ มันถูกเปลี่ยนมือเจ้าของไปบ่อยมาก หนึ่งในนั้นก็คือคนที่อยู่ในอารัมภบทอย่าง เธนซอร์ นักวิทยาศาสตร์ นั่นเอง จนกระทั่งมาถึงมือของไตรวีรบุรุษรุ่นที่สอง ผู้ที่จะสามารถโค่นล้มจอมมารได้อย่างสมบูรณ์ เมื่ออำนาจของจอมมารตนนั้นกลับคืนมาเขาก็มีความต้องการที่จะครองแหวนสามวงนั้นอีกครั้ง การปกป้องแหวนจึงบังเกิดอีกครั้ง และสุดท้ายการปกป้องก็สำเร็จ สามราชสีห์ได้สละชีวิตของเขาเพื่อกำจัดจอมมารและปลดปล่อยวิญญาณที่ทนทุกข์ทรมาณให้เป็นอิสระ จากนั้นคำสาปของมันจึงหายไป
วันเวลาผ่านไปนานแสนนาน จอมมารคนใหม่ก็เกิดขึ้นแบบออลโอเวอร์อีกครั้ง นั่นคือเมลคอร์ (Melkor) หรือที่รู้จักกันในภายหลังว่า มอร์กอธ เบาเกลียร์ (Morgoth Bauglir) พอได้รู้เรื่องแหวนต้องคำสาปสามวงก็เกิดอยากได้มาครอบครองเพื่อเป็นเครื่องมือในการครองเอกภพ (อีกละ) จากนั้นไตรวีรบุรุษรุ่นที่สามก็ถือกำเนิดขึ้นแล้ว และเมื่อแหวนนี้มาถึงมือ ก็เริ่มทำการปกป้องแหวนสุดขีด และสุดท้ายก็ต้องจบแบบเดียวกับไตรวีรบุรุษรุ่นที่สองนั่นคือ สละชีวิตเพื่อสังหารจอมมาร และมอร์กอธก็ถูกสังหารตายไป
เวลาผ่านไปนานอีกที เซารอน (Sauron) จอมมารคนใหม่ถือกำเนิดขึ้นแล้ว และเมื่อรู้เรื่องแหวนต้องคำสาปสามวง ก็อยากได้มาครอบครองเป็นเครื่องมือในการครองเอกภพอีกตามเคย จากนั้นไตรวีรบุรุษรุ่นที่สี่นำโดย VariableDart865 ก็พยายามปกป้องแหวนสุดฤทธิ์ และสุดท้ายอำนาจของเซารอนก็อ่อนแอลงโดยไม่ทำให้พวก VariableDart865 ตายเลย
เวลาผ่านไป พวกเขาอายุยืนมากจากการต่อสู้ครั้งนั้น แต่พวกเขายังไม่แก่ชราไปทีเดียวหรอก แต่จนกระทั่งแหวนวงหนึ่งเข้ามาถึงมือของพอเพียง และเซารอนกลับมามีอำนาจขึ้นมาอีกครั้ง แต่กลับเจอคู่แข่งที่สำคัญอย่างซาเกราส (Sageras) จอมมารสูงสุดจากดาวอาร์กัส (Argus) และกำลังนำกองทัพเบิร์นนิ่งลีเจียน (Burning Legion) (กองทัพที่มันมีตาสีเขียวน่ะ) เข้าโจมตีด้วย แถมนี่ยังมีเดอะแบล็ค (The Black) ศัตรูตัวฉกาจของพอเพียงอีกด้วย เดอะแบล็คคือแฮกเกอร์ร้ายที่ว่ากันว่าโหดกว่าเอ็นติตี้ 303 (Entity 303) รวมกับนูล (Null) เดรดลอร์ด (Dreadlord) และเทวดาแห่งความตาย (Angel of Death) รวมกันเสียอีก (ก็คือโหดขนาดที่สี่คนนี้รวมหัวกันสู้ก็สู้เดอะแบล็คไม่ได้เลย)
และนั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องที่เลวร้ายแล้วล่ะ