Warning: The magic method Vc_Manager::__wakeup() must have public visibility in /home/ifeelsom/domains/porpiangwriter.com/public_html/wp-content/plugins/js_composer/include/classes/core/class-vc-manager.php on line 203
ตอนที่สิบสาม : การบูชายัญครั้งที่…ทนดูแทบไม่ได้ – PorpiangWriter.com
ตอนที่สิบสาม : การบูชายัญครั้งที่…ทนดูแทบไม่ได้

ตอนที่สิบสาม : การบูชายัญครั้งที่…ทนดูแทบไม่ได้

ต่อมาหลังจากที่หนุ่ม ๆ ทั้งหมดยกเว้นพอเพียง ภัททิต้า เจซซี่ และปีเตอร์ ไปช่วยเอ็ดมันด์กลับมาหมดแล้ว เช้าวันรุ่งขึ้นก็พบว่าจาดิส เอ็นติตี้ 303 เดอะแบล็ค และเกเวอร์รัสมาขอคุยกับแอสลานกับนอช (ซึ่งเพิ่งมาใหม่) เรื่อง “อาถรรพ์ล้ำลึก”

มันถูกจารึกไว้บนโต๊ะหินที่อยู่ที่นี่ ถูกจากรึกลงลึกเท่าใบหอกบนหินอัคนีแห่งภูเขาเร้นลับ ถูกสลักบนคฑาจักรพรรดิโพ้นทะเล อาถรรพ์ล้ำลึกนี้ องค์พระจักรพรรดิเสกไว้ในนาร์เนียตั้งแต่แรกสถาปนา ผู้ทรยศตกเป็นของจาดิส เป็นเหยื่อของนางโดยชอบธรรม ไม่ว่าจะเป็นผู้ทรยศคนใดก็ย่อมมีสิทธิ์ที่เจ้าเอาชีวิตได้ — หากจาดิสไม่ได้รับเลือกตามสิทธิที่มีกฎกำหนดไว้แล้วนั้น นาร์เนียจะล่มสลายและพินาศด้วยน้ำและไฟ

นางแม่มดจาดิสเล่ามาอย่างนี้

แต่พวกที่เหลือขู่ร้องคำรามด้วยความไม่พอใจ

“งั้นมันเกี่ยวอะไรกันเล่า!” พอเพียงพูด “กับแหวนพวกนี้! แกอยากครองแหวนหรืออย่างไร!

“องค์พระจักรพรรดิทรงกำหนดให้ข้าเป็นผู้ครองแหวนเมื่อมันมาถึงนาร์เนียแล้ว พระองค์ทรงทราบดีถึงพลังในแหวนเหล่านี้” นางแม่มดจาดิสพูด

สุดท้ายแอสลานถึงกับต้องสั่งให้ทุกคนเงียบเพราะจะคุยกับนอช นางแม่มดจาดิส เอ็นติตี้ 303 เดอะแบล็ค และเกเวอร์รัส ตามลำพัง

ในที่สุดการเจรจาเป็นผลดีแล้วนั่นก็คือนางแม่มดจาดิสจะไม่เอาเลือดของเอ็ดมันด์แล้ว และพวกวายร้ายหนีไปทันที

ไม่แน่ใจนักว่าอาถรรพ์ล้ำลึกที่ว่ามันหมายความว่ายังไง แต่ที่แน่ ๆ พวกแอสลานกับโมแจงเริ่มเตรียมการโจมตีแล้ว แอสลานอธิบายแผนการให้กับพอเพียง ภัททิต้า เจซซี่ และปีเตอร์ฟัง ก็คือหนึ่ง การโจมตีที่จุดที่ตั้งเนเธอร์รีแอคเตอร์ สอง การโจมตีที่จุดที่ตั้งอินเฟอร์โนรีแอคเตอร์ สาม การรับมือกับศัตรูในที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะที่ปราสาทของจาดิส สีหน้าของราชสีห์เคร่งขรึมมากทั้งบ่ายและเริ่มดูเศร้า ๆ ด้วย แอสลานไม่ได้สัญญาว่าจะไม่ได้อยู่ร่วมรบด้วย

ที่แอสลานบอกว่าจะไม่ได้มาเข้าร่วมการต่อสู้ครั้งนี้ สี่หนุ่มยังฉงนว่าแล้วแอสลานจะไปทำอะไรกันแน่

มื้อเย็นดูเงียบเหงา บรรยากาศดูไม่รื่นเริงเอาเสียเลย เหมือนกับว่าความสนุกของงานเริ่มขึ้นปุ๊บก็ยุติลงปั๊บ

ความรู้สึกนี้มันทำให้สาว ๆ ทั้งเก้านอนไม่หลับ พวกเธอทั้งหมดกลัวว่าจะมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นกับแอสลาน

โซเฟีย เรเชลออกมาก่อน จากนั้นก็ตามด้วยเพทรา เจสซิเลีย โอลิเวีย แล้วก็ตามด้วยยินนากับยิงซาลิน่า แล้วสุดท้ายคือซูซานกับลูซี่

“พวกเรานอนไม่หลับเลย” เพทราเริ่มก่อน “พวกเธอด้วยเหรอ”

“ไม่ค่ะ” ที่เหลือตอบเบา ๆ

“นี่คุณเพทราคะ” ลูซี่พูด

“อะไรเหรอ” เพทราถาม

“หนูรู้สึกพิกลยังไงก็ไม่รู้เหมือนกับว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นอย่างนั้นนะ” ลูซี่พูด

“หนูด้วยค่ะ” ซูซานพูด

“พวกเราด้วยค่ะ” ยินนากับยิงซาลิน่าเห็นด้วย

“พวกเราเช่นกันค่ะ” โซเฟียกับเรเชลเห็นด้วย

“พวกเราก็เหมือนกัน” เพทราบอก

“เกี่ยวกับแอสลาน” โซเฟียพูด “ไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับเขา หรือเขากำลังทำอะไรสักอย่าง บอกไม่ถูกเหมือนกัน”

“แอสลานดูผิดปกติมาตั้งแต่ตอนบ่ายเลยล่ะ” เจสซิเลียพูด “จำที่เขาบอกได้ไหม ที่ไม่แน่ใจว่าจะอยู่ในการรบกับเราด้วยหรือเปล่านะ เขาคงไม่แอบหนีเราไปตอนกลางคืนหรอกนะ”

“ตอนนี้เขาอยู่ไหนล่ะ” โอลิเวียถาม “ไม่อยู่ในกระโจมใหญ่นี่ด้วยใช่ไหม”

“ไม่หรอกค่ะ” ซูซานตอบ

“งั้นเราออกไปตามหาดูดีไหมเผื่อจะพบเขา” ยิงซาลิน่าถาม

“ดีเหมือนกัน” เรเชลพูด “ออกไปเที่ยวตามหาเขาดีกว่าเอาแต่นอนทั้ง ๆ ที่หลับไม่ลงอย่างนี้”

หญิงสาวทั้งเก้าค่อย ๆ เดินออกไปจากแคมป์แล้วก็เจอกับแอสลานเดินไปในป่า พวกเธอรีบตามไปทันที ท่าทางของแอสลานตอนนี้ต่างจากเมื่อก่อนมาก หัวและหางหรุบลง เดินเหมือนจะหมดแรง และเมื่อเดินอยู่กลางที่โล่งกว้าง เขาระแวดระวังตัวมากขึ้น หญิงสาวทั้งเก้ารู้ว่าไม่มีประโยชน์ที่จะซ่อนจึงเดินเข้ามาใกล้ทันที

“พวกเจ้าตามข้ามาทำไม แม่หนูน้อยทั้งเก้า” แอสลานถาม

“เรานอนไม่หลับค่ะ” ลูซี่ตอบ และไม่พูดต่ออีกเพราะแอสลานรู้ดีว่าพวกเธอคิดอะไรอยู่

“ได้โปรดเถิด ขอให้พวกเราตามท่านไปได้หรือไม่ แม้จะไปไหนก็ตาม” เจสซิเลียร้องขอ

แอสลานคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงพูดว่า

“คืนนี้ข้าก็อยากได้เพื่อนเหมือนกันละ ได้ เจ้าจะมากับข้าก็ได้ แต่เจ้าต้องรับปากว่าจะหยุดตามเมื่อข้าสั่งและหลังจากนั้นต้องปล่อยข้าไปต่อตามลำพัง”

“เราสัญญาค่ะ”

ทั้งสิบเดินต่อไป หญิงสาวทั้งเก้าเดินข้าง ๆ สิงโต แต่เขาเดินช้ามาก ศีรษะใหญ่ก้มต่ำจนจมูกเรี่ยดิน ไม่นานเขาก็สะดุดเซ ครางเบา ๆ

“ท่านแอสลานคะ” ยินนาพูด “มีอะไรหรือ เล่าให้เราฟังได้ไหม ท่านไม่สบายหรือ”

“เปล่า” แอสลานตอบ “ข้าเศร้าใจและรู้สึกอ้างว้าง วางมือของเจ้าลงบนคอของข้าเถิด เราจะเดินกันไปอย่างนั้น”

สาว ๆ ทั้เก้าจึงวางมือเย็น ๆ ของพวกเธอลงบนขนคออันสง่างามและลูบไล้ไปมาช้า ๆ ขณะเดิน ซึ่งอยากทำมาตั้งแต่พบแอสลานเป็นครั้งแรกแล้วแต่ไม่กล้าทำโดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่ช้าก็พบว่ากำลังเดินไปยังยอดเนินของโต๊ะหิน ทางขึ้นเป็นด้านที่มีต้นมายืนต้นสูงมากที่สุด และเมื่อถึงต้นสุดท้ายที่พุ่มไม้ขึ้นรอบโคน แอสลานก็หยุดและบอกว่า

“นี่แน่ะแม่หนูน้อย เจ้าจะต้องหยุดอยู่เพียงนี้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม เจ้าจะค้องไม่ให้ใครเห็นตัวเป็นอันขาด ข้าขอลาก่อนละ”

หญิงสาวทั้งเก้าร้องไห้กอดคอสิงโต จุมพิตขนคอ จมูก อุ้งเท้า และนัยน์ตาแสนเศร้า จากนั้นราชสีห์ก็จากไปสู่ยอดเนิน

และเจสซิเลียก็รีบพาที่เหลือซ่อนหลังพุ่มไม้และก็เจอเหตุการณ์ต่อไปนี้ครับ

นี่คือเหล่าลูกน้องของนางแม่มดขาวจาดิส มีพวกซอมบี้ พวกสเกเลตัน พวกครีปเปอร์ พวกแมงมุม มีพวกสไลม์ แม็กม่าคิวบ์ เบลซ ซอมบี้พิกแมน วิเตอร์สเกเลตัน ฮัสค์ สเตรย์ (โอ้ยบอกได้คำเดียวครับว่าพวกนี้เนี่ยส่วนหนึ่งเป็นพวกเดียวกับจาดิสไปหมดแล้ว) สรุปแล้วก็คือชุมนุมพวกฝ่ายจาดิสซึ่งหมาป่าบริวารไประดมมาตามคำสั่งซึ่งมาหลังจากคราวที่แล้วโดนไล่หนีไป ที่ยืนอยู่ชิดโต๊ะหินคือจาดิส แม่มดขาวนั่นเอง

พอราชสีห์เดินตรงเข้ามา ที่เหลือยกเว้นจาดิสนั้นแสดงความเกรงกลัวอย่างชัดเจนแต่จาดิสรวบรวมความกล้าแล้วร้องอย่างเยาะเย้ยว่า

“จับมัน! จับเจ้าโง่มัดให้แน่นทีเดียว!

สาว ๆ ทั้งเก้ากลั้นหายใจ คิดว่าจะได้เห็นการขัดขืนของแอสลานแต่รอแค่ไหนก็ไม่เห็นจะมีการขัดขืนสักที พวกสมุนค่อย ๆ ตรงเข้ามาหา พอแม่มดจาดิสสั่งซ้ำเท่านั้นละ กระโจนเลย!

ขาทั้งสี่โดนมัดแน่นมากแต่แอสลานก็ไม่ได้ขัดขืนแม้พวกลูกน้องจาดิสจะลากและออกแรงทำอะไรกับเขาแรงแค่ไหนก็ตาม

“โกนขนมันเสียก่อน” แม่มดจาดิสพูด

วิเตอร์สเกเลตันตัวหนึ่งถือกรรไกรมาตัดขนแผงคอจนร่วง

และแล้วเก้าสาวทั้งหมดที่หลบซ่อนอยู่ก็พบว่าหน้าของแอสลานเล็กนิดเดียว ดูแปลก ๆ เมื่อไม่มีขนแผงคอแสนสง่านั้น พวกปีศาจก็เห็นความแตกต่างเช่นกัน และเออ-ออไปว่าที่แท้ก็แค่แมวใหญ่ และเห็นว่าหลงกลัวมานาน จากนั้นก็เริ่มทำการดูถูกเยาะเย้ยแอสลานอย่างกับลูกแมวที่ไม่มีใครอยากเอาไปเลี้ยงด้วย อาจจะทำเสียงเมี้ยว ๆ ล้อเลียน หรือไม่ก็ถามว่าจับหนูได้กี่ตัว ไม่ก็ถามอยากเลียน้ำนมสักจานไหม

สาวน้อยทั้งเก้าดูเหตุการณ์นี้ทั้งน้ำตา เสียใจที่ผู้ที่พวกเธอเคารพรักกลับต้องโดนดูถูกขนาดนี้

แต่ใบหน้าที่ถูกโกนยังมีความกล้าหาญ ความงาม และความอดทนอดกลั้นเพิ่มมากขึ้น

“ใส่ขลุมปากเสีย” นางแม่มดจาดิสสั่ง

กิริยาสงบของแอสลานนั้นทำให้ลูกกระจ๊อกชั้นเลวของจาดิสบ้าคลั่งไปอีก ก่อนหน้านี้กลัว ไม่อยากแตะต้องแอสลานแม้ถูกมัด คราวนี้กล้าขึ้นแล้ว ทั้งหมดรุมเข้ามาโจมตีและรุมสหบาทาประชาทัณฑ์ทุบถองแตะเยาะเย้ยไปเรื่อย ๆ แล้วสุดท้ายก็ลากให้แอสลานไปอยู่บนโต๊ะหินแล้วก็มัดแอสลานต่อให้แน่นกว่าอีกหลายทบ

ยินนาส่ายหัวทั้งน้ำตา ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เห็นอีกต่อไปแล้ว เธอเชื่อว่าลึก ๆ พวกลูกกระจ๊อกเหล่านี้ก็ยังกลัวแอสลานอยู่ดี

แล้วนางแม่มดจาดิสก็ถือมีดทีอุตส่าห์ลับไว้นานตั้งแต่ตอนจะบูชายัญเอ็ดมันด์แล้ว ตอนนี้จะได้ใช้มันก็ตอนบูชายัญแอสลานนี่ละ

“ทีนี้เห็นหรือยังล่ะเจ้าโง่ ใครเป็นผู้ชนะกันแน่” นางแม่มดจาดิสพูดกับแอสลาน “เจ้าโง่เอ๋ย คิดหรือว่าการเสียสละของเจ้าจะช่วยชีวิตคนทรยศนั่นได้”

แล้วนางแม่มดจาดิสก็ย่างเข้ามาใกล้ เล็งมีดรอปักคอ สีหน้าของนางนั้นสะใจมาก แต่สีหน้าของแอสลานสงบและเศร้าสร้อย

นางแม่มดก้มลงมาใกล้แอสลานกล่าวอำลายาว ๆ ด้วยความสะใจว่า

“ทีนี้ละ ใครเล่าเป็นผู้ชนะ เจ้าโง่อ๋ย เจ้าคิดหรือว่าการทำอย่างนี้จะช่วยคนทรยศนั่น ตอนนี้ฆ่าจะฆ่าเจ้าตามที่ตกลงกันไว้ว่าเจ้าต้องถูกฆ่าแทนตัวเขา และอาถรรพ์ล้ำลึกจะพอใจ” ระหว่างนี้นางแม่มดก็ค่อย ๆ เอาหัวห่างจากแอสลาน “แต่หลังจากเจ้าตายไปแล้วจะมีใครขัดขวางไม่ให้ข้าฆ่ามันผู้นั้นเสียอีกคนหนึ่งเล่า และใครจะเป็นผู้ช่วยมันให้พ้นข้าเหมือนคราก่อนอีก จงรู้ไว้เถิด เท่ากับว่าเจ้าได้มอบนาร์เนียไว้ให้เป็นของข้าชั่วกาลนาน แล้วบัดนี้เจ้าก็ไม่อาจช่วยชีวิตมันผู้นั้นไว้ได้ด้วย เมื่อรู้เช่นนี้แล้ว จงตายไปพร้อมกับความผิดหวังเถิด!

สิ้นเสียงนางแม่มด นางก็เสียบมีดพิฆาตลงร่างของแอสลาน สาวน้อยทั้งเก้าเบือนหน้าหนีทั้งน้ำตา ไม่สามารถทนดูในวินาทีนั้นได้เลย

“บัดนี้ พวกเจ้าจงตามข้ามา เราจะรวบรัดศึกคราวนี้ให้เสร็จสิ้นไปเลย” นางแม่มดจาดิสพูด “คงไม่เสียเวลาเท่าใดในการสังหารพวกมนุษย์และพวกทรยศพวกนั้น ในเมื่อเจ้าแมวใหญ่หน้าโง่ตัวนี้นอนตายอยู่ที่นี่แล้ว”

ทันใดนั้นสาวน้อยทั้งเก้าก็ได้ยินเสียงฟ้าผ่าแบบโครม ๆ เกิดขึ้นนับสิบกว่าเสียง เกิดอะไรขึ้นนะ?

Share this post

Start typing and press Enter to search

Shopping Cart