ตอนที่สาม : อยู่ในบ้านของศาสตราจารย์แสนพิศวง
หลังจากนั้นพวกเขาทั้งยี่สิบเอ็ดก็ได้รู้ว่า พี่ชายของเอ็ดมันด์และลูซี่ชื่อว่า ปีเตอร์ พีเวนซี่ (Peter Peevencie) และพี่สาวชื่อ ซูซาน พีเวนซี่ (Susan Peevencie)
ครั้งแรกที่ปีเตอร์กับซูซานได้มาเจอกับเหล่าไตรวีรบุรุษทั้งยี่สิบเอ็ดคนนั้นก็ตกใจมากว่าพาใครมา
“ไม่ใช่มาจากในตู้เสื้อผ้านั่นแน่นะครับ” ปีเตอร์พูด
“ไม่ใช่เฟ้ย!” เจซซี่ดุ “พวกเรามาจากโลกอีกโลกหนึ่งที่เรียกว่าโลกสี่มิติ”
“แล้วยังไงคะ” ซูซานพูดต่อไป
“ฉันขอรับประกันว่าไอ้ที่ลูซี่น้องเล็กสุดของพวกเธออ้างไว้น่ะ เป็นเรื่องจริง ฉันไปเจอมาแล้ว มาเจอห้องใต้ดินในบ้านร้างแล้วมาเจอดินแดนนี้ละ” พอเพียงพูด “ตอนแรกยิงซาลิน่าไปเจอกับลูซี่ที่พบกับฟอน จากนั้นเขาก็ตามทั้งสองมาจนรู้จักกัน เวลาต่อมาเมื่อลูซี่กับยิงซาลิน่ามาพบกันอีกคราวนี้เจ้าเอ็ดมันด์กับริวคิกมาเจอกันด้วย แต่ดันไปเจอไอ้แม่มดขาวจาดิส–” พอเพียงหันไปทำสายตาขุ่นเขียวใส่เอ็ดมันด์ “หุบปากไปเลยนะเอ็ดมันด์ ถ้าขืนฉันเห็นนายอ้าปากอีกฉันจะเอาอะไรก็ได้มาอุดปากนาย” จากนั้นก็หันไปคุยกับซูซานและปีเตอร์ “–นางนั่นแสร้งทำเป็นใจดีมากเลยนะ เอาขนมหวาน ‘เลี่ยน‘ ชื่นใจเทอร์คิช ดีไลท์มาให้เอ็ดมันด์สวาปามไปเรื่อย หรือจะเรียกว่า ‘ตะกละตะกลาม‘ ก็ไม่ผิดนัก แถมยังเล่าเรื่องกรอกหูเอ็ดมันด์เกี่ยวกับตัวนางแบบผิด ๆ ให้เขาหลงเชื่ออีก บอกว่าถ้าเกิดมาคราวหน้าก็ให้พาพวกเธอมาหานางแม่มดนะ เดี๋ยวจะมีการจัดตั้งให้เป็นพระราชาพระราชินี — เฮอะ! พาให้ไปฆ่าหมดเกลี้ยงไม่ใช่เรอะ ฉันรู้อยู่แล้วว่านางนั่นหลอกใช้เจ้าเอ็ดมันด์มาตลอด และแถมนิสัยดิบของเอ็ดมันด์นี่คือเกลียดลูซี่ที่เป็นฝ่ายถูก แถมยังคิดหาทางที่จะเอาชนะลูซี่อีก”
“แล้วจะเอายังไงดีครับคุณพอเพียง” ปีเตอร์ถาม
“ไม่รู้สิ” พอเพียงตอบ “ที่แน่ ๆ พวกเราต้องสอดส่องสังเกตการณ์เจ้าเอ็ดมันด์ไว้ ฉันไม่อยากให้เขาได้เปรียบกว่าเดิมนะ ฉันกลัวว่าเอ็ดมันด์จะอยู่ข้างนางแม่มดจาดิสไปเต็ม ๆ ตัวแล้วนะ”
เวลาต่อมา ปีเตอร์และซูซานชวนพอเพียง โซเฟีย ภัททิต้า ยินนา เจซซี่ และเพทราไปคุยกับศาสตราจารย์ดิกอรี่ เคิร์ก (Digory Kirke) เรื่องมิติที่พวกเขาจากมา ศาสตราจารย์ค่อนข้างประหลาดใจเกี่ยวกับหกคนมาก
“เอาล่ะพวกเธอไม่คิดเหรอว่ามิติบ้านเกิดของเธอน่ะยังมีอันตรายอยู่” ศาสตราจารย์ถาม
“ไม่รู้สิครับ จู่ ๆ พวกเราก็หลุดมายังที่นี่ แต่ที่แน่ ๆ ผมจะไม่มีทางให้เดอะแบล็ครู้เด็ดขาดเลยครับ” พอเพียงตอบ
“ฉันว่าสักวันเดอะแบล็คต้องรู้และเข้ามาทำลายโลกที่ลูซี่มาทันทีแน่นอนเลยนะ” ศาสตราจารย์พูด “แต่ว่านะ เหมือนว่าทุก ๆ คนก็พอเข้าใจได้นะว่ามันหมายความว่าอะไร”
ในเวลาต่อมา สำหรับพอเพียง ภัททิต้า เจซซี่ และผองเพื่อน ดูเหมือนว่าเวลาของการอาศัยอยู่ที่นี่ดูสนุกสนานมาก เรื่องประหลาด ๆ เกิดขึ้นในบ้านของศาสตราจารย์บ่อยมาก ทุกครั้งที่เหล่านักท่องเที่ยวมาขออนุญาตเข้าบ้าน ศาสตราจารย์ก็อนุญาตตลอด และไกด์ของคนเหล่านี้คือ นางแม็คเรดี้นั่นเอง (McReady) ซึ่งไม่ใช่คนรักเด็ก ไม่ชอบให้คนรบกวนขณะนำชมบ้านและเล่าเรื่อง หล่อนเตือนปีเตอร์กับซูซานเกือบจะในวันแรกที่มาถึง (รวมกับสิ่งอื่น ๆ อีกหลายอย่าง) ด้วยซ้ำว่า “ต้องไม่เกะกะเวลาที่นำนักท่องเที่ยวชมบ้าน
เด็ก ๆ รวมถึงเหล่าไตรวีรบุรุษทั้งหมดก็คิดแบบเดียวกันว่า “เตือนอย่างกับจะมาเสียเวลาครึ่งเช้าเดินตามพวกนักท่องเที่ยวซะนี่”
สองสามวันหลังจากที่คุยกับศาสตราจารย์ พวกผู้ชายก็คุยกันถูกคอเรื่องการผจญภัย แต่พวกผู้หญิงวิ่งพรวดพราดเข้ามาและเตือนว่านางแม็คเรดี้นำนักท่องเที่ยวมาแล้ว
“ปัดโธ่! เผ่นสิครับรออะไร!” เจซซี่ตะโกน
ปรากฏว่ายิ่งหนียิ่งเหมือนโดนต้อน ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเด็ก ๆ ไม่คิดหน้าคิดหลัง คิดแต่จะหลบจนหัวหมุน หรือนางแม็คเรดี้แกล้งพานักท่องเที่ยวต้อนเด็ก หรือกระแสอาถรรพ์ในบ้านส่งพลังบีบให้เด็ก ๆ มายังนาร์เนีย
ในที่สุดซูซานเสนอให้ไปอยู่ในตู้เสื้อผ้าจนกว่านักท่องเที่ยวจะไป
“ก็ดีเหมือนกัน ไม่มีทางเลือกอื่นอีกละ” พอเพียงช่วยเสริม
ยิ่งเมื่อเข้าไปถึงห้องว่างก็เหมือนโดนบีบมากขึ้นเรื่อย ๆ พวกเขารีบหนีเข้าไปในตู้เสื้อผ้าทันที